มีใครบอกหรือยัง...จบปริญญาไม่เพียงพออีกแล้วในปี 2025
คุณไม่ได้ล้มเหลวหรอก ถ้าแค่ยังไม่ได้งาน
นั่นเพราะคุณอาจไม่รู้ว่า การทำงานในวันนี้ แฟร์กับเด็กจบใหม่ทุกคนแม้จะได้รับเกียรตินิยมหรือไม่เกียรตินิยม ต่างก็ตกงานได้เหมือนกัน ถ้ายังไม่มีทักษะที่โลกต้องการซึ่งไม่มีใครบอกความจริงนี้กับคุณอย่างชัดเจนเพียงพอ
ในอดีต เราเคยได้ยินว่าองค์กรส่วนใหญ่มักคัดเลือกเด็กเกียรตินิยมเข้าทำงาน หรือสถาบันดัง ๆ เข้าทำงานโดยมองว่ามันเป็นเครื่องหมายของความขยัน ความมีวินัย และศักยภาพในการเติบโต แต่ในปี 2025 สิ่งนั้นไม่ได้เป็น “ใบเบิกทาง” อีกต่อไป ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุว่าจำนวนบริษัทที่กำหนดเกณฑ์ GPA หรือให้ความสำคัญกับเกียรตินิยมลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่ตลาดแรงงานหันมาให้ความสำคัญกับ “ทักษะที่ใช้ได้จริง” และ “ผลงานที่จับต้องได้” แทน เด็กเกียรตินิยมที่ไม่มีพอร์ต ไม่มีโปรเจกต์ หรือไม่มีความสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลร่วมกับ AI อาจถูกมองข้ามได้ไม่ต่างจากคนที่เรียนจบแบบไม่นิยม เพราะองค์กรต้องการคนที่แก้ปัญหาได้จริง ไม่ใช่แค่คนที่ทำข้อสอบได้ดี ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะจบด้วยเกียรติหรือไม่ ถ้ายังไม่มีทักษะเฉพาะ ไม่มีประสบการณ์จริง และไม่มีอะไรให้เขาเห็นว่าคุณ “ทำได้มากกว่าแค่เรียนเก่ง” คุณก็ตกงานได้เหมือนกันในโลกที่ให้ค่าความสามารถมากกว่าเกรด
ความจริงเบื้องหลังอัตราว่างงานที่ดูเหมือนน้อย
รายงานจากสภาพัฒน์ฯ ระบุว่า อัตราว่างงานของไทยไตรมาสแรกปี 2568 อยู่ที่เพียง 0.88% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายปี แต่อีกมุมหนึ่ง กลุ่มอายุ 20–24 ปี — ซึ่งส่วนใหญ่คือบัณฑิตจบใหม่ — กลับมีอัตราว่างงานสูงถึง 4.4% นั่นหมายความว่า แรงงานรุ่นใหม่กำลังเข้าสู่โลกการทำงานที่ไม่ได้มีที่ว่างไว้สำหรับพวกเขาจริง ๆ
เมื่อเทคโนโลยีลดช่องทาง “เริ่มต้น” ของใครหลายคน
เมื่อมองย้อนเวลากลับไป การเริ่มต้นจากตำแหน่งเล็ก ๆ แล้วเติบโตในองค์กรดูเป็นแนวทางปกติ แต่ในวันนี้ ตำแหน่ง entry-level หลายประเภท เช่น ธุรการ ฝ่ายสนับสนุน ครีเอเตอร์มือใหม่ กำลังถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติและ AI
ข้อมูลจาก JobsDB และ BCG ระบุว่า
62% ของแรงงานไทยใช้ Generative AI แล้ว
83% เชื่อว่างานของพวกเขาจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญภายใน 3 ปี
สำหรับคนที่ยังไม่มีทักษะเฉพาะ ไม่มีประสบการณ์ และไม่มีเครือข่าย การจะก้าวข้าม “จุดเริ่มต้น” กลับยิ่งยากกว่าที่เคย
สำหรับคนไม่มีต้นทุน เวลาไม่ใช่เพื่อนคุณอีกแล้ว
โซเชียลมีเดียบอกให้คุณ “ลาออกตามฝัน” แต่ไม่มีใครบอกว่า คนที่กล้าลาออกได้ มักมีเงินเก็บหรือมีบ้านให้กลับไป มันชวนคุณ “เป็นฟรีแลนซ์” แต่ไม่เคยบอกว่า ฟรีแลนซ์ต้องหางานทุกสัปดาห์ ไม่มีวันหยุด และไม่มีประกันสังคมและที่สำคัญ โซเชียลไม่เคยพูดถึงความเป็นจริงเรื่องต่อไปนี้
หนี้ กยศ. รอจ่าย
ค่าครองชีพในเมืองใหญ่สูงกว่าค่าแรงเริ่มต้น
บางคนยังต้องส่งเงินกลับบ้าน
อีกหลายคน ต้องดูแลครอบครัวควบคู่ไปกับหางาน
เด็กมัธยมปลายเองก็ต้องรู้ให้ทันก่อนสาย
คุณอาจเห็นวิดีโอของ Data Analyst ที่ใช้ชีวิตในคาเฟ่ UX Designer ที่พรีเซนต์งานสวย ๆ บนสไลด์ หรือครีเอเตอร์ที่มีรายได้จาก YouTube และ TikTok
แต่ไม่มีคลิปไหนบอกว่า
พวกเขาเหล่านั้นต้องผ่านการฝึกที่ยาวนาน
ใช้เวลาหลายปีสร้างพอร์ตโฟลิโอ
ต้องพัฒนา Soft Skills ควบคู่กับความเข้าใจธุรกิจ
สิ่งที่โซเชียลมีเดียไม่พูดคือ การมีความฝันไม่พอ — คุณต้องมีทักษะ และเข้าใจโลกจริงที่ไม่ได้โรยทางไว้ให้คุณเดิน
แล้วแรงงานรุ่นใหม่ควรทำอะไรได้บ้าง?
1. เริ่มจากงานที่มี ไม่ใช่งานที่ฝันไว้
คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มจากอาชีพในอุดมคติ แต่งานที่ให้คุณได้ลงมือทำจริง มีรายได้จริง จะเป็นจุดตั้งหลักที่จำเป็น
2. พัฒนาทักษะด้วยเครื่องมือที่มีอยู่
การเรียนรู้ไม่ได้ขึ้นกับเงินเสมอไป
คอร์สจาก Google, Microsoft, Digital Skill Academy ของ depa
YouTube, LinkedIn Learning, Coursera และตามมหาวิทยาลัยชั้นนำมากมาย
เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Canva, Notion ล้วนช่วยคุณได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
3. สร้างตัวตนผ่านผลงานจริง
ไม่ว่าจะเคยมีใครจ้างหรือไม่ คุณควรมีผลงานที่แสดงให้เห็นสิ่งที่ทำได้จริง Portfolio ไม่ใช่สิ่งหรูหราอีกต่อไป แต่มันคือข้อพิสูจน์ว่าคุณมีศักยภาพในสายงานนั้น ๆ
4. ยืดหยุ่น ไม่ยึดติดกับสาขาที่เรียน
คุณไม่ได้ผิดถ้าต้องเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ว่าจะเรียนบัญชีแล้วย้ายไปสาย Data ก็ไม่แปลก หรือแม้จบมนุษย์ฯ แล้วเป็น UX Writer หรือ Content Designer ก็เป็นไปได้
โลกการทำงานวันนี้เคลื่อนตัวเร็วกว่าหลักสูตรปริญญา อย่ายึดติดกับใบจบ ให้ยึดติดกับสิ่งที่คุณกำลังฝึกอยู่
แน่นอนโลกการทำงานในปี 2025 ไม่ได้แฟร์กับทุกคนหากคุณไม่คิดเรียนรู้แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คุณหยุดเดินเพราะสิ่งเดียวที่คุณควบคุมได้ คือความตั้งใจเรียนรู้ และการลงมือทำจริง คุณไม่จำเป็นต้องชนะใครแค่ต้องไม่ยอมแพ้ต่อความไม่ชัดเจนของระบบและที่สำคัญที่สุด — อย่าให้ใครในโซเชียลหลอกคุณว่า “มันง่าย” เพราะวันนี้ Puff. บอกคุณให้รู้แล้วว่า…โลกแห่งการทำงานจริงๆ มันไม่ง่ายเลย สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่มีใครผิดหากไม่มีต้นทุน แต่คุณต้องรู้วิธีเคลื่อนตัวในโลกที่ไม่เท่าเทียม