เมื่อ “การลดน้ำหนัก” ไม่ใช่เป้าหมายเดียวอีกต่อไป
“เจ็บตัวก็พอทน แต่เจ็บใจทุกครั้งที่สังคมมองเราแค่ ‘ตัวเลขบนเครื่องชั่ง’” — ประโยคนี้อาจสะท้อนความรู้สึกของใครหลายคนที่ใช้ชีวิตร่วมกับโรคอ้วนได้ดีกว่าเสียงแนะนำใด ๆ ในห้องตรวจ
ความจริงของผู้ป่วยโรคอ้วนในไทย ไม่ได้มีแค่เรื่อง “น้ำหนัก” แต่ยังรวมไปถึงโรคแทรกซ้อน ค่าใช้จ่ายมหาศาล ความยากลำบากในการเข้าถึงทางเลือกการรักษา และความรู้สึกถูกกีดกันทางสังคม บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด จึงจัดงานแถลงข่าวครั้งสำคัญ เพื่อย้ำชัดว่า การจัดการโรคอ้วนในยุคใหม่ต้องขยับไปไกลกว่าการลดตัวเลขบนตาชั่ง แต่ควรเป็น “การเปลี่ยนชีวิต” อย่างมีนัยยะ ทั้งในมิติของสุขภาพ ความมั่นใจ และโอกาสในชีวิต
จุดเปลี่ยนที่เริ่มจากวิทยาศาสตร์
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) โรคอ้วนในไทยกำลังกลายเป็นโรคเรื้อรังระดับวิกฤต มากกว่า 40% ของประชากรไทยอยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน ขณะที่โรคแทรกซ้อนจากความอ้วน เช่น เบาหวาน หัวใจ และไตเรื้อรัง กลายเป็นภาระด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
สิ่งที่น่าเศร้าคือ สังคมไทยจำนวนไม่น้อยยังมองโรคอ้วนว่าเป็น “ความผิดพลาดส่วนบุคคล” แทนที่จะเข้าใจว่าเป็น “โรคที่ต้องการการรักษา”
โนโว นอร์ดิสค์ ตอกย้ำความเข้าใจใหม่นี้ผ่านการเปิดตัวนวัตกรรมการรักษาที่ไม่เพียงช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นผลิตภัณฑ์แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้ในด้านนี้โดยตรง
โรคอ้วน = ปัญหาเศรษฐกิจ
ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่ผลกระทบจากโรคอ้วนยังแทรกซึมไปถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทย ข้อมูลจากปี 2562 ระบุว่า โรคอ้วนสร้างต้นทุนมหาศาลถึง 220,000 ล้านบาท หรือ 1.27% ของ GDP ไทย และอาจพุ่งสูงถึง 850,000 ล้านบาทภายในปี 2603 หากไม่เร่งแก้ไข
นายเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไปของโนโว นอร์ดิสค์ ประเทศไทย ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “การลดน้ำหนักควรเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาสุขภาวะโดยรวม เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถ ‘ควบคุมชีวิตของตัวเองได้’”
ไม่ใช่แค่เรื่องยา แต่คือโอกาสใหม่ในชีวิต
ผู้ร่วมงานแถลงข่าวหลายคนสะท้อนความรู้สึกที่ตรงกันว่า การลดน้ำหนักที่ได้ผล ไม่ได้เปลี่ยนแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังเปลี่ยนมุมมองต่อตนเอง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และแม้กระทั่งหน้าที่การงาน นางสาวพิชญะ เพียรงาม หนึ่งในผู้ร่วมแชร์ประสบการณ์กล่าวว่า “การลดน้ำหนักของเธอไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่ช่วยให้กล้าเข้าสังคมมากขึ้น และรู้สึกว่า ‘ชีวิตของฉัน ฉันขับเคลื่อนได้เอง’”
โนโว นอร์ดิสค์ ย้ำถึงความตั้งใจที่จะไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยโรคอ้วนต้องต่อสู้อย่างเดียวดายอีกต่อไป พวกเขากำลังร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อผลักดันแนวทางการรักษาที่ครอบคลุมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พร้อมชวนสังคมไทยตั้งคำถามใหม่ว่า
“ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะมองโรคอ้วนในฐานะ ‘โรคเรื้อรังที่ต้องการการดูแล’ ไม่ใช่ ‘ความผิดส่วนตัวที่ควรถูกตัดสิน’?”