Loro Piana หนึ่งศตวรรษแห่งเส้นใยเหนือกาลเวลา

นิทรรศการ If You Know, You Know. Loro Piana’s Quest for Excellence ที่จัดขึ้น ณ Museum of Art Pudong ใจกลางเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ เปรียบได้กับบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านผืนผ้า ความทรงจำ และรายละเอียดเล็กที่สุดที่สัมผัสได้ด้วยปลายนิ้ว และบางทีอาจด้วยหัวใจ

การครบรอบ 100 ปีของ Loro Piana ไม่ใช่แค่โอกาสสำหรับการเฉลิมฉลอง แต่มันคือการสะท้อนตัวตนที่ไม่เคยเปลี่ยนของเมซงอิตาเลียนผู้เชี่ยวชาญในการรังสรรค์สิ่งทอระดับสูงตลอดศตวรรษ แม้เวลาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้แปรผัน แต่ Loro Piana ยังคงเดินอยู่บนเส้นทางแห่งความพิถีพิถัน ความงามสง่า และจิตวิญญาณของการสร้างสรรค์ที่ลึกซึ้งทุกฝีเข็ม

นิทรรศการนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่าสามแกลเลอรี กว่า 15 ห้อง ที่ไม่ได้แบ่งด้วยกำแพง แต่แบ่งด้วยอารมณ์ของเรื่องราวและลำดับของสายตา ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสเส้นใย Baby Cashmere ใต้กล้องจุลทรรศน์ที่ขยายให้เห็นแม้กระทั่งความลับของธรรมชาติ เส้นใยที่ให้สัมผัสละมุนระดับเดียวกับอ้อมกอดแรกของฤดูหนาว

ทุกส่วนของนิทรรศการถูกออกแบบให้เล่าเรื่องอย่างชัดเจนแต่ไม่เร่งรัด เริ่มตั้งแต่บันทึกจุดเริ่มต้นในหุบเขา Valsesia เมืองเล็กๆ ที่ชื่อแทบไม่คุ้นในแผนที่ แต่กลับเป็นแหล่งที่ความปรารถนาในความสมบูรณ์แบบของ Loro Piana ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างงดงาม บันทึกเหล่านั้นถูกถ่ายทอดผ่านภาพถ่าย เครื่องมือโบราณ สิ่งทอรุ่นแรกที่ยังคงเก็บไว้ในคลังข้อมูลของเมซงที่ Varallo ด้วยความเคารพในอดีต และความรักที่มีต่ออนาคต

ทุกพื้นที่ในนิทรรศการถูกตกแต่งอย่างกลมกลืนไปกับวัสดุที่ Loro Piana เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นไม้ หนัง ผ้าไหม หรือแม้แต่หินที่ใช้ปูพื้น ต่างก็ถูกร้อยเรียงให้กลายเป็นฉากหลังที่อบอุ่น เบจหลากเฉดที่กระซิบกับสายตาเบาๆ ว่า ความหรูหราไม่จำเป็นต้องส่งเสียงดัง

หนึ่งในห้องที่ชวนให้หยุดนิ่งนานกว่าที่ตั้งใจก็คือห้องที่ว่าด้วยเรื่องของแหล่งผลิตใยผ้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นภูเขาในจีน เทือกเขาแอนดีส ลมจากญี่ปุ่น แสงแดดจากฝรั่งเศส หรือหญ้าเขียวในนิวซีแลนด์ ทุกภูมิประเทศมีลมหายใจ มีอุณหภูมิ มีความชื้น และมีสัตว์ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ซึ่ง Loro Piana มองว่า “วัตถุดิบ” ไม่ได้มาแค่จากสถานที่ แต่มาจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง

ในนิทรรศการ ยังมีการจัดแสดงเสื้อผ้าในแบบที่ไม่ใช่แค่ “แฟชั่นโชว์” แต่เป็นบทสนทนาระหว่างวัสดุ ความทรงจำ และรสนิยม หนึ่งในชุดที่สะกดสายตาอย่างประณีตคือกระโปรงสุ่มสีม่วงอ่อน ที่ต้องใช้เวลาปักด้วยลูกปัดแก้วและไหมจีนถึงพันชั่วโมง มันไม่ใช่แค่ชุด แต่มันคืองานฝีมือที่มีชีวิตอยู่ในทุกจังหวะของเข็มปัก

ในมุมหนึ่ง ยังมีการจัดแสดงเครื่องจักร “Thistle Machine” ที่ขนส่งจากอิตาลีมาเซี่ยงไฮ้ มันวางอยู่กลางห้องเหมือนประติมากรรมร่วมสมัยที่ตั้งใจจะบอกว่า ความนุ่มที่เราสัมผัสจากผ้าทอของเมซง ไม่ได้เกิดจากเวทมนตร์ แต่มาจากแรงมือของมนุษย์ และการให้ความเคารพต่อกระบวนการดั้งเดิมที่ไม่อาจลดทอน

และเมื่อเดินจนถึงปลายทาง เราจะพบห้องที่จำลองหมู่บ้าน Valsesia แห่งหุบเขาอิตาเลียนผ่านภาพยนตร์ที่ฉายลงบนจอผ้าทอแบบพิเศษเฉพาะที่ถูกออกแบบโดย Loro Piana เอง ไม่มีอะไรพูดถึงแบรนด์นี้ได้ดีเท่าผืนผ้าที่เล่าเรื่องได้ และภาพที่สะท้อนจังหวะชีวิตของผู้คนในหุบเขาที่ยังคงยึดมั่นในฝีมือและการดำรงอยู่ของคุณภาพ

จะว่าไปแล้ว ความงดงามของนิทรรศการนี้ไม่ใช่แค่เพราะการจัดวางหรือความประณีตของวัสดุ แต่เพราะมันชัดเจนว่า Loro Piana ไม่ได้แค่ทำผ้า แต่พวกเขาคิดกับมันเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต ค่อยๆ เติบโตจากธรรมชาติ สู่สายตาของนักออกแบบ จากห้องตัดเย็บสู่อ้อมแขนของผู้สวมใส่ และสุดท้ายกลายเป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าซ้ำในนิทรรศการที่เหมือนจะเบา แต่กลับทิ้งน้ำหนักบางอย่างไว้ในใจ

ผู้ที่รู้…จะรู้ และผู้ที่ไม่เคยสัมผัส เมื่อเดินออกจากแกลเลอรีนี้ ก็น่าจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาบ้าง — ไม่ใช่เพราะใครสอน แต่เพราะเขาได้ “รู้สึก” ด้วยตัวเองแล้วจริงๆ


Next
Next

ต่อสานด้วยมือ ถ้อยคำที่ FENDI พูดกับโลก