Burberry Back to the City คืนชีวิตให้มหานครลอนดอน
ในช่วงเวลาที่เมืองใหญ่กำลังถูกตีความใหม่ทั่วโลก Burberry เลือกจะหันกลับไปหาหัวใจของตนเอง — ลอนดอน เมืองที่เต็มไปด้วยพลังของความแตกต่าง และเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมที่ผสานความเก่า–ใหม่อย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
แคมเปญ Back to the City ภายใต้การกำกับของ Daniel Lee ไม่ได้เป็นเพียงการโปรโมตคอลเลกชันฤดูใบไม้ร่วง 2025 แต่คือการเฉลิมฉลองให้กับความมีชีวิตชีวาของมหานครลอนดอน ผ่านเลนส์ของวัฒนธรรมร่วมสมัย ภาพยนตร์และซีรีส์พอร์ตเทรตถ่ายทอดเส้นทางทัวร์รถบัสเปิดประทุนสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ตั้งแต่หอศิลป์แห่งชาติ London Eye ไปจนถึง Trafalgar Square — ฉากที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างคุ้นเคย แต่ถูกเล่าใหม่ด้วยสายตาของ Burberry
สิ่งที่น่าสนใจคือการเลือกนักแสดงนำ ไม่ว่าจะเป็น Bus Aunty (Bemi Orojuogun) ที่กลายเป็นไวรัลจาก TikTok, Jimothy Lacoste นักดนตรีที่สร้างซาวด์แทร็กให้แคมเปญโดยเฉพาะ, รวมถึงนางแบบอย่าง Nora Attal พวกเขาทั้งหมดสะท้อน “ตัวตนของลอนดอน” ที่ Daniel Lee ยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองนี้ไม่เหมือนใคร และ Burberry เองก็เป็นส่วนหนึ่งของพลังนั้น
แฟชั่นที่ปรากฏในแคมเปญนี้ตอกย้ำรากเหง้าของแบรนด์ — เทรนช์โค้ท Fitzrovia ที่ตัดเย็บในสหราชอาณาจักร, เสื้อคลุมไหล่ผ้าพลิ้ว, แจ็กเก็ตสนาม และบอมเบอร์หนัง ทั้งหมดคือการตีความคลาสสิกให้ทันสมัย โดยเฉพาะการใช้ผ้าวูลและแคชเมียร์ร่วมกับลาย Burberry Check ที่ถูกถักทอเป็นกางเกง เดนิม และกระโปรงคิลต์ สัญญะของ heritage ถูกวางคู่กับ accessories รุ่นใหม่ เช่น Strand, Highlands, Cotswolds ที่รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างของเทรนช์โค้ท
ในเชิงแฟชั่น แคมเปญนี้สะท้อนแนวโน้มที่เราเห็นชัดในปี 2025: การหันกลับไปหาตัวตนดั้งเดิมของแบรนด์ แต่เล่าด้วยเครื่องมือร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นพลังโซเชียลมีเดีย (ไวรัล TikTok), เพลงที่แต่งขึ้นเฉพาะกิจ หรือการใช้สถานที่จริงของเมืองเป็นรันเวย์เปิดกว้าง Burberry กำลังบอกว่า ความหรูหราใหม่ไม่ใช่เพียงสิ่งที่อยู่บนรันเวย์ แต่คือสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในเมือง และสะท้อนผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น
Burberry Back to the City — London as a Runway of Identity
At a time when global cities are being reimagined, Burberry turns inward to reclaim its beating heart: London. A city that thrives on contrast — where heritage architecture meets relentless modernity, and where cultural intersections shape identity.
The campaign Back to the City, under the creative direction of Daniel Lee, is more than a seasonal narrative. It is a love letter to London itself. Through a film and a series of portraits, the campaign transforms the city into a living runway. The iconic red double-decker bus — a symbol instantly recognizable to tourists and locals alike — becomes the moving stage, traveling past landmarks from the National Gallery and the London Eye to Trafalgar Square. Familiar backdrops are recast with new energy, refracted through Burberry’s lens of modern heritage.
Casting is at the core of the message. From Bus Aunty (Bemi Orojuogun), a viral sensation from TikTok, to musician Jimothy Lacoste, who composed the soundtrack specifically for the campaign, to models like Nora Attal — each figure represents a fragment of London’s diverse cultural fabric. For Daniel Lee, London’s multiplicity is not just a backdrop, but the essence that makes Burberry unique.
The fashion amplifies this dialogue between past and present. Key pieces include the Fitzrovia trench coat, tailored in the UK, fluid capes, field jackets, and leather bombers. Iconic materials like wool and cashmere are reinterpreted alongside the Burberry Check, woven into trousers, denim, and kilts — symbols of continuity placed against the vibrancy of contemporary design. Accessories such as the Strand, Highlands, and Cotswolds bags echo trench coat construction, grounding the collection in Burberry’s craft while extending it into new forms.
From a trend perspective, Back to the City captures a broader movement within fashion: heritage houses revisiting their roots, yet narrating them through contemporary tools — viral social media figures, cityscapes as runways, and music as cultural glue. Burberry asserts that luxury today is not confined to the runway; it lives within the streets, the people, and the pulse of the city itself.
