BINANCE TH ON THE ROAD พา Gen Z ก้าวสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
ตอนเห็นข่าวว่า BINANCE TH จะเอารถเทรลเลอร์สีเหลืองมาจอดที่มหาวิทยาลัย เรารู้สึกกึ่งลังเลกึ่งอยากรู้ มันไม่ใช่งานเปิดตัวสินค้า ไม่ใช่มหกรรมไอที หรืออีเวนต์สายแฟชั่นอย่างที่เราคุ้นเคย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสนใจ เพราะชื่อกิจกรรมนี้—“ON THE ROAD”—ชวนให้คิดว่าเขากำลังจะพาอะไรบางอย่างเข้ามาหาเรา แทนที่จะรอให้เราวิ่งเข้าไปหาเอง
สิ่งที่เห็นในวันจริงคือรถเทรลเลอร์สีเหลืองสดที่ดูโดดเด่นเกินกว่าจะมองข้าม มันไม่ได้ตั้งอยู่ในลานกิจกรรมใหญ่ ไม่ได้มีเวทีหรือแบ็กดรอปถ่ายรูปเหมือนงานมหาวิทยาลัยทั่วไป แต่ภายในเต็มไปด้วยพื้นที่ให้เข้าไปเรียนรู้เรื่องการเงินดิจิทัลอย่างเป็นกันเอง คลาสขนาดเล็ก บูธจำลองระบบบล็อกเชน และเกมที่ช่วยทำให้เรื่องยากกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ภายในไม่กี่นาที
BINANCE TH ON THE ROAD ไม่ได้ทำมาเล่น ๆ พวกเขาคือ แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือของ Gulf Binance ที่ต้องการส่งต่อความรู้ด้านการเงินสมัยใหม่ให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่กำลังเติบโตมาในยุคดิจิทัล และมีแนวโน้มสนใจการลงทุนมากขึ้นทุกปี
รถเทรลเลอร์คันนี้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยเริ่มทริปแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อด้วยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกำลังจะไปต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพในวันที่ 8 กันยายน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวันที่ 10 กันยายน ก่อนขยายเส้นทางสู่มหาวิทยาลัยและชุมชนของคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เป้าหมายไม่ใช่แค่แจกใบปลิวหรือแนะนำแอปฯ ให้คนโหลด แต่คือการจุดประกายความเข้าใจเรื่อง "สินทรัพย์ดิจิทัล" กับกลุ่มคนที่กำลังจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากกิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงความหมายของคำว่าคริปโตฯ หรือวิธีใช้แพลตฟอร์มเทรด แต่เป็นแนวคิดที่ชัดเจนมากว่า “การเงินไม่ใช่เรื่องของคนที่เรียนบัญชีหรือเศรษฐศาสตร์เท่านั้น” มันคือเรื่องของทุกคนที่ต้องใช้เงินดำเนินชีวิตในโลกปัจจุบัน
ใน Mini-Class มีการอธิบายแนวคิดของการเงินแบบไร้ศูนย์กลาง (Decentralized Finance) ที่ไม่ได้พูดให้ฟังดูไกลตัว แต่เปรียบเทียบกับสิ่งที่เราใช้ทุกวันอย่างแอปโซเชียลมีเดียหรือการชำระเงินดิจิทัล ทำให้เข้าใจได้ว่า คริปโทฯ ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุน แต่มันอาจกลายเป็นวิธีคิดใหม่ในการใช้ชีวิตทางการเงินในอนาคต
คุณแทนรัก เชียงทอง CMO (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด) ของ BINANCE TH พูดถึงสิ่งที่กิจกรรมนี้พยายามจะสร้างไว้ว่า "เราไม่ได้ต้องการให้คนมาเทรดเพื่อรวยเร็ว แต่เราอยากให้คนเข้าใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลคือส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนในอนาคต" ซึ่งเรามองว่าเป็นประโยคที่ตรงไปตรงมา และน่าจะพูดแทนความตั้งใจของโครงการนี้ได้ดีที่สุด
จากข้อมูลของ ก.ล.ต. ในเดือนกรกฎาคม 2568 มีบัญชีผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยมากกว่า 2.7 ล้านบัญชี และมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 99,600 ล้านบาท สถิติเหล่านี้ยืนยันว่าการเงินในโลกดิจิทัลไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่มันคือปัจจุบันที่หลายคนยังเข้าไม่ถึง เพราะขาด "พื้นที่ปลอดภัย" ให้เรียนรู้ ที่น่าทึ่งคือโครงการนี้ยังขยายแนวคิดออกไปนอกมหาวิทยาลัย โดยเชื่อมโยงกับพื้นที่จริงอย่างถนน “ทรงวาด” ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของแนวคิด “Crypto Tourism” ที่ร้านค้าเริ่มเปิดรับการชำระเงินด้วยคริปโตฯ จริงแล้ว และเริ่มมีการออกแบบกิจกรรมที่ผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวกับการเรียนรู้การเงิน เช่น โครงการ Tourist DigiPay ที่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีคิดใหม่ในการใช้ชีวิตแบบ Digital Nomad
ข้อมูลจาก Travala x Binance Pay ในปี 2567 ระบุว่านักท่องเที่ยวที่ใช้คริปโตฯ มีพฤติกรรมการใช้จ่ายสูงกว่าผู้ใช้เงินทั่วไปถึง 2.5 เท่า ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่ควรมองข้าม โดยเฉพาะในวันที่ผู้ประกอบการไทยกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ท่ามกลางพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม
เรากลับจากกิจกรรมนี้โดยไม่ได้เข้าใจทุกเรื่องเกี่ยวกับคริปโตฯ แต่เรากลับมาพร้อมมุมมองที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง การเงินกลายเป็นสิ่งที่พูดคุยได้มากขึ้น เข้าใจได้ด้วยประสบการณ์ ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะ “ไม่รู้พอ” หรือ “เริ่มช้าไป” เพราะความเข้าใจไม่ได้ขึ้นกับเวลาที่เริ่มต้น แต่มันขึ้นกับว่าเรากล้าที่จะเริ่มหรือเปล่า
รถสีเหลืองคันนี้อาจดูเหมือนแค่กิจกรรมชั่วคราว แต่ถ้ามันสามารถจุดไฟความอยากรู้ในใจใครสักคนได้ มันก็อาจเป็นการลงทุนที่มีค่าที่สุดในโลกของความรู้ก็ได้ ถ้ามันวิ่งมาจอดแถวคุณ — ลองแวะเข้าไปดูสักครั้ง
คำเตือน: การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ กรุณาศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน และประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนให้เหมาะสมกับตนเอง