เรากำลังดูมากไป จนลืมฟัง และลืมอ่าน

มีบางวันที่เรารู้สึกว่าความสามารถในการจดจ่อของเราหายไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนสมองถูกฝึกให้ชอบเพียงสิ่งที่จบเร็ว แค่สามสิบวินาทีก็เพียงพอให้เรารู้สึกว่าเข้าใจแล้ว ทั้งที่จริงสมองอาจแค่กำลังติดกับของความเร้าใจที่ไม่สิ้นสุด คลิปหนึ่งจบก็มีอีกคลิปตามมา เสียงหัวเราะ ภาพตัดต่อ และคำพูดที่ไม่ต้องคิดมากเกินไปทำให้เราหลงคิดว่าเรากำลังผ่อนคลาย แต่ในทางชีววิทยา สมองของเรากำลังทำงานหนักโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย

นักประสาทวิทยาอย่าง Dr. Anna Lembke จาก Stanford University เคยอธิบายว่า การเสพคอนเทนต์สั้นๆ ต่อเนื่อง ทำให้สมองหลั่งโดปามีนแบบฉับพลัน เหมือนการได้รับรางวัลซ้ำๆ ยิ่งดูมากเท่าไร สมองก็ยิ่งต้องการแรงกระตุ้นใหม่ มากขึ้นเท่านั้น และทันทีที่หยุดดู ระบบรางวัลของสมองจะเข้าสู่ภาวะว่างเปล่า หรือที่เรียกว่า dopamine deficit นั่นคือช่วงเวลาที่เรามักเผลอกลับไปไถหน้าจออีก ไม่ใช่เพราะอยากดูอะไร แต่เพราะไม่อยากรู้สึกว่างเปล่า คล้ายคนที่จิบกาแฟแก้วต่อแก้วเพื่อให้หัวใจเต้น แม้รู้ดีว่าแค่แก้วแรกก็เพียงพอแล้ว

ขณะเดียวกัน งานวิจัยของ University College London ในปี 2024 พบว่าการดูวิดีโอเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ทำให้สมองรับข้อมูลได้รวดเร็ว แต่ลดความสามารถในการจดจำระยะยาว เพราะมันไม่มีเวลาตีความด้วยตัวเอง ข้อมูลผ่านเข้ามาและผ่านออกไปเหมือนสายลม ในทางตรงกันข้าม การฟัง หรือการอ่าน บังคับให้สมอง “สร้างภาพ” ขึ้นเอง ภาพที่เกิดจากจินตนาการนี้แหละ ที่กลายเป็นความเข้าใจอย่างแท้จริง และฝังอยู่ในความทรงจำได้นานกว่ามาก เหมือนกลิ่นหนังสือเก่าที่ติดอยู่ในหัวใจ แม้เราจะปิดมันไปแล้ว

ผมจำได้ว่ามีวันหนึ่งที่ลองตั้งใจฟังพอดแคสต์โดยไม่จับโทรศัพท์เลย ตอนแรกสมองมันโหยหาเสียงแจ้งเตือนจนรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป แต่พอผ่านไปสิบนาที เสียงคนพูดที่ไม่เร่งร้อนเริ่มกลายเป็นจังหวะการหายใจใหม่ ผมเริ่มฟังได้ลึกขึ้น และในที่สุด ได้ยินเสียงของความคิดตัวเองชัดขึ้นกว่าทุกวัน นั่นคือจุดที่ผม “ฟัง” ตัวเองจริงๆ ไม่ใช่แค่ฟังใครพูด

จากนั้นผม “เรียนรู้” ว่าการฟังช้าๆ และการอ่านเงียบๆ คือการออกกำลังกายให้สมองได้พัก ได้ฟื้นตัวจากเสียงรบกวน และเริ่มสร้างการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่รับรู้กับสิ่งที่เราเชื่อ มันคือช่วงเวลาที่เรากลับมาเป็นเจ้าของความคิดของเราเอง ไม่ต้องให้คลิปสั้นๆ เป็นคนกำหนดว่าเราควรคิดอะไรต่อ

เมื่อผมเริ่ม “ขยับ” โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ อย่างปิดหน้าจอในช่วงพักกลางวัน หรืออ่านบทความยาวก่อนนอนแทนการดูคลิป ผมพบว่าสมองกลับมาสงบและจดจำรายละเอียดเล็กๆ ในชีวิตได้มากขึ้น เหมือนแสงแดดที่ส่องผ่านใบไม้แล้วตกกระทบพื้น มันไม่ได้แรง แต่มันอยู่กับเราได้นาน

และสุดท้าย ผมได้ “ครอบครอง” ช่วงเวลาความเงียบของตัวเองอีกครั้ง เงียบพอจะคิดต่อ เงียบพอจะฝัน เงียบพอจะได้ยินเสียงของความคิดที่ซื่อสัตย์ที่สุด เสียงที่เราเคยทิ้งไว้ข้างหลังเพราะกลัวจะเบื่อ

การอ่านไม่ใช่การหนีโลกดิจิทัล แต่มันคือการกลับมาเข้าใจโลกในจังหวะที่สมองของเรารับไหว การฟังไม่ใช่กิจกรรมของคนว่าง แต่มันคือวิธีทำให้สมองได้สร้างโลกด้วยตัวเอง และการปิดคลิปชั่วคราว ไม่ใช่การปฏิเสธเทคโนโลยี แต่คือการยอมให้ตัวเองได้หายใจ

ลองวางโทรศัพท์สักพัก ฟังเสียงของความเงียบหรือเสียงของหนังสือที่เปิดอยู่ตรงหน้า เพราะบางทีสิ่งที่เราตามหามาตลอด อาจไม่ได้อยู่ในคลิปถัดไป แต่อยู่ในประโยคที่คุณยังไม่ได้อ่านให้จบ

PUFF. Your taste, we craft

#puffonline #puffonlinemagazine #digitalbalance #mindreset #slowcontent


Next
Next

โตแล้ว อย่ารอให้ใครบอกว่าควรทำอะไร