โตแล้ว อย่ารอให้ใครบอกว่าควรทำอะไร
คุณเคยเหนื่อยจากงาน หรือจาก “คนที่ไม่คิดต่อเอง” กันแน่?
ในวัยทำงาน เรามักไม่ได้เหนื่อยจากงานที่มากเกินไปแต่เหนื่อยจาก “คนที่ไม่รู้จักคิดต่อเอง” มากกว่า คำว่า “ไม่มีเวลา” มักเป็นข้ออ้างของคนที่ยังไม่เข้าใจว่า
เวลาไม่เคยพอสำหรับคนที่ไม่จัดลำดับความสำคัญ ส่วนคำว่า “ยังไม่ได้รับบรีฟ” ก็มักเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่เคยเปิดเอกสารที่ทีมส่งให้เลยสักครั้ง
Survival Mode: เมื่อสมองทำงานเพื่ออยู่รอด ไม่ใช่เติบโต
จิตวิทยาการทำงานอธิบายว่า มนุษย์จำนวนมากติดอยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “โหมดเอาตัวรอด (Survival Mode)” คือทำเฉพาะสิ่งที่ถูกสั่ง ไม่กล้าคิดเพิ่ม ไม่กล้าขยับเกินหน้าที่ เพราะกลัวผิด สมองในโหมดนี้จะทำงานแบบอัตโนมัติ — ทำเท่าที่จำเป็น เพื่อไม่ให้โดนตำหนิ แต่ผลคือ “คนที่อยู่ใน Survival Mode”
จะไม่พัฒนาเลย เพราะสมองไม่ได้ถูกกระตุ้นให้คิดวิเคราะห์หรือคาดการณ์ล่วงหน้า
จากบทความของ Harvard Business Review (2023) เรื่อง “How to Break Out of Survival Mode at Work” ระบุว่า การอยู่ในโหมดนี้ต่อเนื่องจะทำให้ประสิทธิภาพในการตัดสินใจลดลง และขัดขวางความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
Growth Mindset: คนที่มองทุกงานเป็นสนามฝึกคิด
ในทางตรงกันข้ามคนที่มี “Growth Mindset” — แนวคิดที่ถูกนิยามโดย Carol Dweck จากมหาวิทยาลัย Stanford — จะมองทุกงานเป็น “โอกาสในการฝึกคิด” เขาไม่รอให้ใครบอกว่า “ควรไปกี่โมง” หรือ “ต้องเตรียมอะไร” เพราะเข้าใจว่าความพร้อมไม่ใช่หน้าที่ของใคร แต่มันสะท้อน “ระดับความคิด” ของตัวเอง คนที่มี Growth Mindset จะไม่รอให้โอกาสมาถึงแต่จะสร้างโอกาสจากการคิดเชิงรุกในทุกงานเล็ก ๆ ที่ทำ
Common Sense: ทักษะที่ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์
หลายคนเข้าใจผิดว่า “common sense” เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ควรมีแต่ในความจริง มันคือผลจากการสังเกตและการเอาใจใส่ผู้อื่น คนที่ขาด common sense มักมีจุดร่วมคือ “มองโลกจากมุมตัวเองเท่านั้น” ไม่คิดว่าการมาสายทำให้คนอื่นลำบาก ไม่คิดว่าการไม่อ่าน agenda ทำให้ทีมต้องอธิบายซ้ำและไม่คิดว่าการ “รอคำสั่ง” คือภาระที่คนอื่นต้องคอยจัดการ
Egocentric Thinking: เมื่อโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเอง
ในทางจิตวิทยา พฤติกรรมนี้เรียกว่า “Egocentric Thinking” — การประมวลทุกอย่างโดยใช้ “ตัวเองเป็นศูนย์กลาง” จนละเลยผลกระทบที่เกิดกับผู้อื่น สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากความโง่ แต่เกิดจาก “การขาดการฝึกฝนทางอารมณ์ (Emotional Maturity)” ซึ่งเป็นคุณสมบัติหลักของคนที่ทำงานได้จริงในระยะยาว งานวิจัยของ Daniel Goleman (2020) ผู้บุกเบิกแนวคิดเรื่อง Emotional Intelligence (EQ) พบว่า คนที่มี EQ สูงมักได้รับความไว้วางใจในทีมมากกว่า และมีแนวโน้มเติบโตในสายงานเร็วกว่า 4 เท่า
โตแล้ว ความรับผิดชอบไม่ใช่ของหนัก แต่มันคือระดับของความคิด
โตแล้ว... เราทุกคนมีภาระ มีเรื่องต้องจัดการแต่ “ความรับผิดชอบ” ไม่ควรถูกพูดเหมือนของหนัก มันคือเครื่องบ่งบอกว่าคุณ “โตจริง” หรือแค่ “อายุเยอะ” การรู้จักคิดแทนคนอื่นล่วงหน้า คือทักษะของคนที่เข้าใจว่า โลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง และทีมไม่ได้ต้องการคนที่เก่งที่สุดเสมอไป แต่ต้องการคนที่ “คิดได้เอง” โดยไม่ต้องรอให้ใครบอกทุกอย่าง
Common Sense คือคุณสมบัติของผู้นำ
โตแล้ว อย่าทำตัวเหมือนเด็กฝึกงานในองค์กรหนึ่ง คนที่ต้องคอยบอกทุกอย่างคือ “ภาระ” แต่คนที่เห็นสิ่งที่ต้องทำเองโดยไม่ต้องบอก คือ “ผู้นำ” เพราะ Common sense ไม่ได้เป็นแค่สัญญาณของความฉลาดทางเหตุผล (IQ) แต่มันคือ “ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)” ที่ทำให้คนอยากร่วมงานกับคุณอีกครั้ง
ความเก่งสร้างโอกาสได้แต่ Common sense คือสิ่งที่ทำให้โอกาสนั้นอยู่กับคุณได้นาน
ในโลกการทำงาน ความเก่งอาจหาคนแทนได้ แต่ “คนที่คิดได้เอง” แทนกันไม่ได้ Common Sense จึงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของมารยาท แต่มันคือ สัญญาณของวุฒิภาวะทางอารมณ์ (Emotional Maturity) ที่แยก “คนที่โตจริง” ออกจาก “คนที่แค่ทำงานมานาน”
โตแล้ว อย่ารอให้ใครบอกว่าควรทำอะไร — เพราะบางครั้ง “การไม่อ่าน agenda” บอกได้มากกว่าที่คุณคิด