ไฟไหม้บ้าน…เรื่องที่ไม่มีใครอยากพูดถึง แต่ควรเริ่มคิดได้แล้ว

ช่วงนี้ข่าว “ไฟไหม้บ้าน” โผล่ให้เห็นบ่อยกว่าที่เคย ทั้งในหมู่บ้านจัดสรรหรู บ้านเดี่ยวในเมือง หรือแม้แต่ทาวน์โฮมธรรมดา เหตุส่วนใหญ่มักมาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม — ปลั๊กพ่วง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปิดทิ้งไว้ หรือสายชาร์จที่เสียบคาเต้าอยู่ตลอดวัน ความเสียหายจากไฟไหม้ไม่ได้จบแค่ทรัพย์สิน แต่มันพรากชีวิตคนในบ้านได้ในไม่กี่นาที

ต่อให้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แค่เห็นภาพข่าวก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัว มันไม่ใช่แค่ “ข่าวของคนอื่น” อีกต่อไป แต่มันคือเสียงเตือนเบา ๆ ว่า เราก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นได้ โดยไม่รู้ตัว

ผมยอมรับตรง ๆ ว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะซื้อ “ถังดับเพลิง” เข้าบ้านเลยสักครั้ง รู้สึกว่ามันเป็นของที่ไกลตัว เหมาะกับโรงงานหรือร้านอาหารมากกว่า แต่พอเห็นข่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เริ่มคิดได้ว่า บ้านก็มีความเสี่ยงไม่ต่างกัน — เราใช้ไฟฟ้าทั้งวัน มีเตา มีสายชาร์จหลายเส้นที่ไม่เคยถอด มีเครื่องใช้ที่เก่าแล้วแต่ยังใช้อยู่โดยไม่เคยตรวจเช็กเลย

เรื่องจริง: บ้านในไทยไฟไหม้เฉลี่ยทุกวัน

ข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า ในปี 2567 มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 2,800 ครั้งทั่วประเทศ หรือเฉลี่ย เกือบวันละ 8 ครั้ง โดยสาเหตุอันดับหนึ่งคือ “ไฟฟ้าลัดวงจร” ซึ่งมักเกิดในบ้านที่ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ หรือใช้ปลั๊กพ่วงคุณภาพต่ำ

สิ่งที่น่าคิดคือ บ้านส่วนใหญ่ไม่มีถังดับเพลิงเลย แม้จะมีเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ เครื่องชาร์จ และเครื่องปรับอากาศที่กินไฟจำนวนมาก เราใช้สิ่งเหล่านี้ทุกวัน แต่ไม่เคยเตรียมไว้รับมือหากมันผิดปกติ

ความเข้าใจผิดที่อันตรายกว่าควันไฟ

เราหลายคนมักคิดว่า “บ้านไม่น่าจะเกิดไฟไหม้ได้หรอก” เพราะอยู่มาหลายปีไม่เคยมีปัญหา หรือคิดว่ามีประกันคุ้มครองอยู่แล้ว ซึ่งก็จริงในแง่เงินชดเชย แต่ ประกันไม่สามารถซื้อชีวิตหรือความทรงจำกลับมาได้

ในหลายกรณี เจ้าของบ้านเล่าว่าไฟลุกเพียง 2–3 นาที ก็ลามไปทั่วครัว เพราะไม่มีใครกล้าหรือมีเครื่องมือดับตั้งแต่ต้นเหตุ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป

ข้อเท็จจริงที่ควรรู้: ถังดับเพลิงไม่ได้แพงเลย

ผมลองค้นข้อมูลดูถึงได้รู้ว่า ถังดับเพลิงสำหรับบ้านพักทั่วไป ขนาด 5–10 ปอนด์ ราคาอยู่ที่ประมาณ 500–1,500 บาทเท่านั้น

  • ถังชนิด ผงเคมีแห้ง (Dry Chemical) เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม ใช้ดับไฟจากไฟฟ้า น้ำมัน และวัสดุทั่วไป

  • ถังชนิด CO₂ (คาร์บอนไดออกไซด์) ใช้ดับไฟจากไฟฟ้าได้ดี โดยไม่ทิ้งคราบผง

แค่วางถังไว้ใกล้ครัวหรือปลั๊กพ่วงหลัก ก็สามารถช่วยชีวิตได้แล้ว

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD หรือ ELCB) ซึ่งจะตัดระบบทันทีเมื่อมีไฟรั่วหรือไฟดูด ราคาติดตั้งเริ่มต้นเพียง ไม่กี่พันบาท แต่ช่วยป้องกันไฟไหม้และอุบัติเหตุไฟดูดที่คร่าชีวิตคนไทยปีละกว่าร้อยราย

ลองคิดดูว่า...ของแพงแค่ไหนที่เรายอมจ่าย แต่ยังไม่เคยจ่ายเพื่อความปลอดภัย

เราซื้อของตกแต่งบ้านหลักหมื่น เพราะสวย
เราซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักพันเพราะโปรโมชั่น
เราซื้อเทียนหอม เครื่องฟอกอากาศ กล้องวงจรปิด
แต่กลับไม่เคยซื้อ “ถังดับเพลิง” ที่ราคาแค่ไม่ถึงพันบาท ทั้งที่มันอาจเป็นสิ่งเดียวที่เราต้องการให้ “อยู่ในบ้าน” มากกว่าอะไรทั้งหมด

เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตได้จริง

ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ลองใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เช็กดูว่าในบ้านมีสิ่งเหล่านี้หรือยัง

  • ถังดับเพลิงสักใบ วางใกล้จุดเสี่ยง เช่น ห้องครัวหรือโรงจอดรถ

  • เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) ในตู้ไฟหลัก

  • แผนหนีไฟง่าย ๆ สำหรับทุกคนในบ้าน

การลงมือวันนี้อาจดูเล็ก แต่ในวันที่ไฟไหม้ มันคือสิ่งเดียวที่ทำให้ทุกคนกลับมามี “วันพรุ่งนี้” ได้

ผมไม่ได้เขียนในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย แต่เขียนในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่เห็นข่าวแล้วรู้สึกว่า เราต้องเริ่มทำอะไรบางอย่างก่อนจะสายเกินไป เพราะบางอย่างที่เรามักพูดว่า “ไว้ก่อน” อาจกลายเป็นสิ่งที่ ไม่มีโอกาสได้ไว้ก่อนอีกเลย


อย่ารอให้ข่าวถัดไปอยู่ในหมู่บ้านของคุณ วันนี้ลองหาถังดับเพลิงดี ๆ สักใบ หรือโทรหาช่างติดตั้งเครื่องตัดไฟ แล้วบอกตัวเองว่า “อย่างน้อย ฉันได้เริ่มแล้ว


สั่งซื้อถังดับเพลิงที่ Shopee >> https://s.shopee.co.th/9zovHRbeuh


Previous
Previous

ฝึกคิดกว้าง คิดไกล คิดรอบด้าน — เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเรา

Next
Next

เมื่อหัวใจเริ่มไม่เชื่อในตัวเอง — ฝึก “ความหวัง” ให้กลับมาได้เหมือนเดิม