จุดประกายความฝัน กับนาฬิกาข้อมือ Lady Féerie watch จาก Van Cleef & Arpels

นับแต่ก่อตั้ง Van Cleef & Arpels ยกย่องความงดงามของเหล่าเทพธิดา นางฟ้าผ่านบรรดาผลงานสร้างสรรค์อันล้วนจุดประกายความฝัน และปลุกจินตนาการถึงดินแดนมหัศจรรย์ ล่าสุด เมซงได้นำแนวคิด และแนวทางการออกแบบอันทรงเอกลักษณ์มารังสรรค์ขึ้นเป็นนาฬิกาข้อมือ Lady Féerie watch (เลดี เฟรี วอทช์)

VAN&-01-01.jpg

ผลงานใหม่สำหรับเติมเต็มคอลเลคชันเครื่องบอกเวลา Féerie นี้ คือการหลอมรวมทักษะ ความชำนาญแขนงต่างๆ ในการประดิษฐ์นาฬิกาข้อมือเข้ากับงานหัตถศิลป์ตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิมลงสู่สัดส่วนตัวเรือนซึ่งมีขนาดเพียง 33 มม.รองรับฉากแห่งความวิจิตรบรรจงดุจฝันของนางฟ้าบอกเวลาผ่านไม้คทาร่ายมนต์ท่ามกลางแสงละมุนตาจากจันทร์กระจ่างกลางฟ้าราตรี

VCARO8ZD00 - Lady Feerie Close up © Van Cleef _ Arpels - Clement Rousset.jpg

ชั่วโมงสะกดอารมณ์

ประหนึ่งเทพธิดาอารักษ์ นางฟ้าเจ้าของเรือนร่างอรชรอยู่ในอาภรณ์ประดับเพชรและไพลินทอดสายตาปกปักษ์ไปยังท่วงทำนองบทกวีบอกเวลา (Poetry of Time) ของ Van Cleef & Arpels เพชรเดี่ยวต่างวงหน้าของเธอทอประกายสว่างสุกใสตัดกับผืนทิฆัมพรไล่โทนฟ้าถึงน้ำเงินบนแผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ลสลักลายร่องบากเป็นหยักคลื่นรัศมีอย่างที่เรียกว่าเทคนิคกวิโญเช (guilloche) กลมกลืนกับโทนสีของคู่ปีกโปร่งแสงบนกลางหลัง อันเป็นประดิษฐกรรมจากลีลาผสมผสานทับซ้อนระหว่างงานลงยาลายฉลุ “ปลิการฌูร” (plique-à-jour) และลงยาเคลือบสี “กรีซายล์” (grisaille) นี่เป็นครั้งแรกที่เมซงนำเทคนิคหัตถศิลป์สุดประณีตนี้มาใช้ร่วมกันบนแผ่นโมทิฟชิ้นเดียวเพื่อก่อมิติความลึกสลับลูกเล่นไล่โทนบนปีกนางฟ้า ซึ่งยังทวีอำนาจสะกดสายตาด้วยมนตราของงานฝังเพชรสุดละเอียด พิถีพิถันเพื่อเดินขอบตามเส้นลายลงยา รูปกายอันบอบบางบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงอย่างชัดเจนกำลังนั่งอยู่บนก้อนเมฆแผ่นแม่มุกมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ลสีขาวเหลือบระยับ ใช้ไม้คทาร่ายมนต์ของตนต่างเข็มนาที ในขณะที่งานเจาะช่องกลมเป็นดวงจันทร์อาศัยตัวเลขสลักบนแผ่นแม่มุกรองหลังบอกชั่วโมงอยู่ท่ามกลางวงรัศมีตระการตา ส่วนด้านหลังของนาฬิกาคือจานเหวี่ยง (oscillating weight) สลักลวดลายเป็นจันทร์เต็มดวงบนผืนฟ้าประดับดาว

VCARO8ZD00 - Lady Feerie 3Q © Van Cleef _ Arpels - Clement Rousset.jpg

ทักษะแขนงต่างๆ ในการผลิตนาฬิกาข้อมือ, เครื่องประดับอัญมณี และงานหัตถศิลป์ตามธรรมเนียมดั้งเดิม ถูกระดมมาใช้ในการสรรค์สร้างฉากความงดงามสุดวิจิตรดุจบทกวี และก่อลีลาเคลื่อนไหวได้ดั่งมีชีวิต นาฬิกาข้อมือ Lady Féerie อาศัยกลไกขับเคลื่อนแบบขึ้นลานในตัวหรือระบบไขลานอัตโนมัติ (self-winding) ประกอบกับจักรกลเข็มนาทีแบบตีกลับ (retrograde) และจักรกลช่องบอกเลขชั่วโมง (jumping hours) ระบบกลไกสุดซับซ้อนซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้องนี้ ต้องอาศัยความประณีต พิถีพิถัน และแม่นยำเป็นอย่างสูง ทั้งในแง่ของการออกแบบ และการประกอบชิ้นส่วนให้ลงตัวอยู่ภายในกรอบตัวเรือนรุ่น Lady ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 33 มม. เท่านั้น นอกจากนั้น งานประดับกระจกไพลินแผ่นกลมบนตัวเรือนยังช่วยเร่งความเข้มแสง ซึ่งส่องผ่านเข้ามา พร้อมกับเป็นการแสดงให้เห็นถึงความละเมียดละไมในการตกแต่งโครงสร้างรูปทรงขั้นตอนสุดท้ายให้แก่นาฬิกาข้อมือรุ่นนี้

55300_382850.jpg

เครื่องประดับ Fairies เทพธิดาอารักษ์ แห่ง Van Cleef & Arpels

 จุดเริ่มต้นหนึ่งในขนบธรรมเนียมทางงานออกแบบอันเป็นที่รักยิ่งของ Van Cleef & Arpels บรรดาเครื่องประดับจำลองรูปลักษณ์เรือนกายอิสตรีรุ่นแรกของเมซงได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1940 ในรูปแบบของเข็มกลัดนางฟ้า และนางระบำปลายเท้า (บัลเลรินา) สำหรับเครื่องประดับนางฟ้าอันเป็นตัวแทนความสุข เบิกบานใจ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง สามารถชนะใจเหล่านักสะสมได้อย่างรวดเร็วด้วยท่วงท่าอากัปงามสง่า กับปีกที่แสนบอบบาง ในลีลาคล้ายเตรียมพร้อมโบยบินสู่ห้วงเวหน บ่อยครั้งที่วงหน้าเพชรเดี่ยวเหลี่ยมกุหลาบจะครองมงกุฎ หรือเครื่องประดับศีรษะแบบต่างๆ นับจากปี 2007 กับนาฬิกาข้อมือ Lady Féerie เรือนแรก เจ้าของทรวดทรงเพรียวบาง สะโอดสะองเหล่านี้ราวกับทำหน้าที่คอยบอกโมงยามไม่ต่างอะไรจากตำแหน่งผู้พิทักษ์แห่งบทกวีบอกเวลาของ Van Cleef & Arpels

เครื่องประดับ Fairies เทพธิดาอารักษ์ แห่ง Van Cleef & Arpels

 จุดเริ่มต้นหนึ่งในขนบธรรมเนียมทางงานออกแบบอันเป็นที่รักยิ่งของ Van Cleef & Arpels บรรดาเครื่องประดับจำลองรูปลักษณ์เรือนกายอิสตรีรุ่นแรกของเมซงได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1940 ในรูปแบบของเข็มกลัดนางฟ้า และนางระบำปลายเท้า (บัลเลรินา) สำหรับเครื่องประดับนางฟ้าอันเป็นตัวแทนความสุข เบิกบานใจ และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง สามารถชนะใจเหล่านักสะสมได้อย่างรวดเร็วด้วยท่วงท่าอากัปงามสง่า กับปีกที่แสนบอบบาง ในลีลาคล้ายเตรียมพร้อมโบยบินสู่ห้วงเวหน บ่อยครั้งที่วงหน้าเพชรเดี่ยวเหลี่ยมกุหลาบจะครองมงกุฎ หรือเครื่องประดับศีรษะแบบต่างๆ นับจากปี 2007 กับนาฬิกาข้อมือ Lady Féerie เรือนแรก เจ้าของทรวดทรงเพรียวบาง สะโอดสะองเหล่านี้ราวกับทำหน้าที่คอยบอกโมงยามไม่ต่างอะไรจากตำแหน่งผู้พิทักษ์แห่งบทกวีบอกเวลาของ Van Cleef & Arpels

Poetry of Time: บทกวีบอกเวลา

เพื่อแสดงถึงจุดยืนในมุมมองอันงดงามที่มีต่อชีวิต Van Cleef & Arpels ได้หลอมรวมมิติหนึ่ง ซึ่งมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้าไว้ในศิลปะการสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือ นั่นก็คือมิติแห่งความฝัน และอารมณ์ ด้วยบทบรรจบระหว่างประดิษฐกรรมกับจินตนาการ เมซงให้กำเนิดผลงานบอกเวลาอันแม่นยำผ่านรายละเอียดสุดอัศจรรย์ จุดประกายความฝันได้อย่างเสมอมา

Lady Arpels Feerie Rouge - VCARO3MA00_616667.jpg

ในการถ่ายทอดความวิจิตรบรรจงให้แก่บทกวีบอกเวลา เมซงอาศัยแง่มุมต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตน ร่วมกับบรรดาแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจอันถือเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัว ผลงานสร้างสรรค์ต่างๆ ชวนให้นึกถึงมรดกแห่ง   Van Cleef & Arpels ที่ดำรงอยู่คู่เคียงกับเรื่องราวบทใหม่ของความรัก และเครื่องหมายนำโชค เหล่านางฟ้า และนางระบำเคลื่อนกายบอกโมงยาม ในขณะที่วงจรของธรรมชาติเปลี่ยนจังหวะสอดคล้องกับครรลองของจักรวาล นาฬิกาข้อมือแต่ละรุ่น จากแต่ละคอลเลคชั่น ล้วนทำหน้าที่บอกเวลาอย่างงามสง่าผ่านเรื่องราวอันเปี่ยมเสน่ห์ประทับใจ.

Previous
Previous

SKECHERS x JGoldcrown รังสรรค์งานกราฟฟิตี้ สู่สตรีทแฟชั่น

Next
Next

SUICOKE X HAY สะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ ผ่านงานดีไซน์