Van Cleef & Arpels นำเสนอสวนอัลลองบราอันน่าหลงใหล ณ สยามพารากอน

ในปี 1968 เมซงได้สรรค์สร้างเครื่องประดับนำโชคอันทรงแบบฉบับ ภายใต้ชื่อคอลเลคชั่น Alhambra ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีอย่างแท้จริง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโคลเวอร์สี่ใบ นำเสนอในดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Van Cleef & Arpels ผ่านความเป็นเลิศของทักษะความชำนาญการเหนือชั้น

1.jpg

โดยเมซงยังคงเติมเต็มคอลเลคชั่นด้วยผลงานการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความลื่นไหลและความสง่างามของการออกแบบ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมซงใช้วัสดุธรรมชาติหลากหลายชนิดมารังสรรค์ผลงาน ตั้งแต่หอยแม่มุก (mother-of-pear), นิล (onyx), ลาพิซ ลาซูลิ (lapis lazuli), หยกพยับหมอก (chalcedony), โมราฟ้าสด (blue agate) และ Bois d’amourette (letterwood)

0.Siam Paragon Alhambra takeover.jpg

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับคอลเลคชั่นอันทรงเอกลักษณ์ซึ่งได้รังสรรค์ขึ้นมากว่า 50 ปี ป๊อปอัพบูติค ครั้งนี้จึงถูกโอบล้อมไปด้วย  Alhambra Garden ตลอด 2 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งตั้งอยู่ ณ ชั้น M ของศูนย์การค้าสยามพารากอน

ในการถ่ายทอดจักรวรรดิของ Alhambra ผ่านบทกวีของเมซง ได้สองคู่หูผู้กำกับมากความสามารถอย่าง Burcu & Geoffrey มาส่งผ่านจินตนาการที่สะท้อนถึงภูมิประเทศอันมีชีวิตชวาและสวนอันเขียวชอุ่ม พร้อมต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยผีเสื้อที่มีรูปร่างเหมือนโคลเวอร์สี่แฉก เริ่มต้นการเดินทางอันน่าหลงใหลผ่านสวน Alhambra Garden ที่สวยงาม

Alhambra Garden

ช่วงเวลา : 2 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

Pop-up Boutique

วันที่: พฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม 2020 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2021 (เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม)

สถานที่: ชั้น M ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานครประเทศไทย

วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดีเวลา 11.00 - 21.30 น.

วันศุกร์ถึงวันเสาร์เวลา 11.00 - 22.00 น.

#VCAalhambra

#CelebratingLuck

#VanCleefArpels


Sweet Alhambra watch  นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra ตัวเรือนทองคำสีเหลือง  หน้าปัดสลักลายรัศมีกิโยเช่  กลไกขับเคลื่อนระบบควอร์ตซ์ สายหนังจระเข้

Sweet Alhambra watch นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra ตัวเรือนทองคำสีเหลือง หน้าปัดสลักลายรัศมีกิโยเช่ กลไกขับเคลื่อนระบบควอร์ตซ์ สายหนังจระเข้

แผ่นโมทิฟอัลลองบร้า เป็นงานออกแบบอันทรงเอกลักษณ์ของแวน คลีฟ แอนด์ อารเปลส์ มาตั้งแต่ ปี 1968 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากใบโคลเวอร์สี่แฉก สัญลักษณ์นำโชคที่ทั่วโลกรู้จักกันดี จากนั้น     ก็ถูกดัดแปลงและรังสรรค์ขึ้นเป็นเครื่องประดับอัญมณีและเครื่องบอกเวลาคอลเลคชั่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากโมทิฟหรือแผ่นอัลลองบร้า จะผลิตขึ้นจากโลหะล้ำค่าแล้ว ก็ยังมีการใช้วัสดุอื่นๆ อีกอย่างเช่นแผ่นแม่มุก หรือมาเธอร์ ออฟ เพิร์ล สีขาว และสีเทา รัตนชาติหรือพลอยเนื้อแข็งเลอค่านานาชนิด โดยมีตัวเรือนทองรองรับไว้เบื้องล่าง เป็นเวลาหลายต่อหลายปี เครื่องประดับอัลลองบร้า  คอลเลคชั่นต่างๆ ได้ผันเปลี่ยนเวียนปรากฏมากับความสดใหม่ไม่รู้จบ หนึ่งในคอลเลคชั่นเหล่านี้ คือ Sweet Alhambra ซึ่งมีความโดดเด่นเป็นหนึ่ง ทั้งในแง่ของการเป็นเครื่องประดับ และเครื่องบอกเวลา ด้วยการใช้แผ่นโมทิฟขนาดเล็กกว่าปรกติ ร่วมกับลูกเล่นรายละเอียดบนหน้าปัด

สำหรับคอลเลคชั่น Sweet Alhambra ในปี 2019 นี้ ประกอบไปด้วยนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่ถึง 5 แบบ     สง่างามด้วยการใช้อัญมณีเลอค่า และเป็นครั้งแรกที่เครื่องบอกเวลาเหล่านี้ได้เพิ่มตัวเลือกสายหนังไว้สลับสับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้

คอลเลคชั่นใหม่อาศัยแรงบันดาลใจจากจากสไตล์การออกแบบที่ถือกำเนิดขึ้นในอาณาจักรของเครื่องประดับอัญมณี  ตัวเรือนงามสง่าผสานงานออกแบบแผ่นโมทิฟซึ่งได้รับแรงบันดาลใจ จากใบโคลเวอร์สี่แฉก เข้ากับรายละเอียดเดินขอบรอบด้วยลูกปัดทองถึงสองแถว ส่วนหน้าปัด ได้รับการสรรค์สร้างขึ้นจากวัสดุล้ำค่านานาชนิด โดยมีงานออกแบบ 2 รุ่นหรูหราด้วยหน้าปัดแผ่นแม่มุกสีขาวเหลือบประกายไล่เฉดล้อแสง ในขณะที่หน้าปัดของรุ่นที่สามงามเงาด้วยประกายดำขลับของแผ่นนิล หรือออนิกซ์

แวน คลีฟ & อารเปลส์ เพิ่มเติมลูกเล่นใหม่ให้แก่นาฬิกาข้อมือ Sweet Alhambra เพื่อให้ผู้สวมใส่นำมาใช้งานได้บ่อยครั้งยิ่งขึ้นกับสายนาฬิกาที่เจ้าของสามารถสลับสับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง สายนาฬิกาเหล่านี้ ถูกผลิตขึ้นจากหนังจระเข้ล้ำค่าสำหรับนาฬิการุ่นนี้เป็นการเฉพาะ นำเสนอตัวเลือกสีที่จับคู่กันได้อย่างงามสง่า เครื่องบอกเวลาแต่ละเรือนจะถูกบรรจุไว้ในกล่องอัญมณี พร้อมสายนาฬิกาเส้นที่สอง โดยเลือกได้จากกลุ่มสีคลาสสิก หรือกลุ่มสีสดใส และสับเปลี่ยนอย่างง่ายดายด้วยการใช้นิ้วกดเบาๆ เพื่อให้สายนาฬิกานี้เป็นอีกความสนุกสนาน เพลิดเพลินทางการสวมใส่เครื่องประดับบอกเวลาอันถือเป็นสัญลักษณ์นำโชค ขานรับกับอารมณ์ การแต่งกาย โอกาสและความต้องการของแต่ละช่วงเวลาระหว่างวัน หรืออาจแค่ใช้เป็นเครื่องบ่งบอกถึงการขึ้นวันใหม่...หรือฤดูกาลใหม่

Guilloché, a technique at the heart of exceptional crafts

“กิโยเช่” เทคนิคซึ่งอาศัยความเป็นเลิศทางงานฝีมือ

Van_Cleef___Arpels_Alhambra_Vintage_Guilloche_2018-003_1796053_resize.jpg

คอลเลคชั่นอัลลองบร้า เป็นบทสะท้อนถึงทักษะ ความชำนาญทางการสรรค์สร้างเครื่องประดับอัญมณี และเครื่องบอกเวลา ซึ่งขับเคลื่อน ดำเนินไปอย่างไม่รู้จบภายในห้องผลิตงานของเมซง สถานที่ที่เหล่าช่างแกะสลัก ช่างฝังอัญมณีขึ้นตัวเรือน และช่างขัดเงาผิววัสดุ จะมาร่วมกันมอบชีวิต ให้กำเนิดแต่ละผลงานด้วยความประณีต พิถีพิถันอย่างที่สุด

Powder box 1933.jpg

“กิโยเช่” (Guilloché) เป็นอีกหนึ่งเกียรติภูมิในการใช้ไหวพริบพลิกแพลงทักษะ ความชำนาญด้านต่างๆ ของบรรดาช่างหัตถศิลป์ นับตั้งแต่ทศวรรษ 1910 เทคนิคการสลักลวดลายนี้ ได้ถูกนำมาใช้บนหน้าปัดนาฬิกานับครั้งไม่ถ้วนลายเส้นตรง ซึ่งแผ่ตัวเรียงแถวออกมาจากจุดศูนย์กลางเดียวกันไม่ต่างอะไรจากแถบรัศมีกระจายตัวออกมาจากดวงตะวันดวงเดียวนี้ ถูกนำมาใช้กับงานตกแต่งกล่องอัญมณี ตลับแป้งแต่งหน้าและกระเป๋าถือมิโนดิเอร์ (Minaudière) รุ่นต่างๆ ตลอดทศวรรษ 1930 รวมถึงอีกหลายผลงานอันน่าจดจำในคอลเลคชั่นมรดกประจำเมซง อีกครั้งที่แวน คลีฟ & อารเปลส์ อาศัยแรงบันดาลใจจากงานฝีมือสุดวิจิตรบรรจงนี้มาสรรค์สร้างผลงานเครื่องประดับอัญมณี และนาฬิกาข้อมือเสมือนฟื้นชีวิตใหม่ให้แก่สุนทรียศิลป์อันเจิดจรัสในความแยบคายได้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น.


เกี่ยวกับแวน คลีฟ & อารเปลส์ (Van Cleef & Arpels)

1.Claude, Jacques and Pierre Arpels, circa 1975.jpg

ก่อตั้งขึ้นในกรุงปารีส ณ อาคารเลขที่ 22 แห่งจัตุรัสวองโดมเมื่อปี 1906 แวน คลีฟ & อารเปลส์ มีจุดเริ่มต้นมาจากเริ่มต้นจากเรื่องราวแห่งความรัก เมื่อเอสแต็ลล์ อารเปลส์ ธิดาของพ่อค้าอัญมณี ได้สมรสกับอัลเฟร็ด แวนคลีฟ บุตรชายของช่างเจียระไนพลอย และตัวแทนผู้ค้าเพชรในปีค.ศ. 1895  เป็นเวลากว่าหลายทศวรรษที่ความเป็นเลิศของเมซงผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีชั้นสูงได้สร้างชื่อเสียงระดับสากลได้ขจรขจายรุดหน้าไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่องผ่านผลงานระดับสัญลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นโมทิฟอัลลองบร้า (Alhambra®) สร้อยคอสายซิป (Zip necklace) หรือเทคนิคการขึ้นตัวเรือนแบบ “ซ่อนหนามเตย” หรือ Mystery Set™ ซึ่งเป็นกรรมวิธีฝังอัญมณีให้บดบังตัวเรือนโลหะเพื่ออวดความงดงามของรัตนชาติในเนื้อแท้ได้อย่างเต็มที่ – การเลือกสรรอัญมณีที่มีจิตวิญญาณ และบุคลิกเฉพาะตัวดั่งที่เรียกว่า Pierres de Caractère™  (ปิเอร์ เดอ การักแตร) เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึก ตลอดจนไหวพริบในการใช้ทักษะความชำนาญของช่างมือทองหรือ Mains d’Or (แม็งส์ดอร แปลตรงตัวว่า “มือทองคำ”) ซึ่งเป็นคำใช้เรียกยกย่องเหล่าช่างฝีมือผู้เปี่ยมทักษะประจำห้องผลิตงานแห่งจัตุรัสวองโดม ผลงานสร้างสรรค์ระดับสัญลักษณ์ของแวน คลีฟ & อารเปลส์ได้ถือกำเนิด ขึ้นเป็นคอลเลคชั่นเครื่องประดับอัญมณี กับนาฬิกาข้อมือจุดประกายปรารถนาให้ครอบครอง  ปัจจุบันเมซงยังคงสร้างสรรค์ผลงานซึ่งสืบทอดสไตล์เฉพาะตัวอันโดดเด่นเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความสดใหม่ ความวิจิตรบรรจง การใช้ความคิดสร้างสรรค์ และสุนทรียศิลป์ในเนื้อแท้ไม่ว่าจะอาศัยแรงบันดาลใจจากมวลธรรมชาติ แฟชั่นเสื้อผ้า นาฏกรรมการเต้น หรือกระทั่งจินตนาการ ทุกผลงานล้วนเต็มไปด้วยความงามสง่า และมีความสอดคล้อง กลมกลืน ยืนหยัดอยู่เหนือกระแสความนิยมของยุคสมัยอย่างแท้จริง


Previous
Previous

ไซโก พรอสเปกซ์ ฉลองครบรอบ 55 ปี เปิดตัวแคมเปญ “Keep Going Forward”

Next
Next

“บิวตี้ เจมส์” เนรมิตงานหรู “White Christmas” ดึง แอฟ ทักษอร และต่อ ธนภพ ส่งความสุขปีใหม่