เบทาโกร จับมือ เอสเอพี พลิกโฉมระบบการจัดซื้อจัดจ้าง
เอสเอพี เอสอี (NYSE: SAP) เปิดเผยว่า เครือเบทาโกร หนึ่งในบริษัทด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ได้ลงทุนต่อสัญญาการใช้โซลูชั่น SAP® Ariba® เพื่อพลิกโฉมให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทั้งองค์กรมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการจัดการค่าใช้จ่าย ทำให้องค์กรมีความพร้อมในการรับมือกับภาวะดิสรัปชั่นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ
เครือเบทาโกร ก่อตั้งขึ้นในปี 2510 และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของประเทศไทยเป็นเวลากว่า 50 ปี และกำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับเบทาโกร การจัดซื้อจัดจ้างได้กลายเป็นส่วนงานเชิงกลยุทธ์หลักขององค์กรที่สามารถช่วยสร้างมูลค่าและวางรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต
เบทาโกร ร่วมมือกับเอสเอพี พลิกโฉมธุรกิจเป็นครั้งแรกในปี 2551 โดย ดร.ถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารส่วนกลาง เครือเบทาโกร กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในองค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้น นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นับเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจในแบบองค์รวม ผลักดันกระบวนการทำงานสู่การเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2551 เราได้นำโซลูชั่น SAP Ariba มาใช้งานสำหรับการจัดหา ทำสัญญา สร้างแคตตาล็อก การจัดการข้อมูลซัพพลายเออร์ และการติดต่อประสานงานกับซัพพลายเออร์ โซลูชั่นดังกล่าวจึงเข้ามายกระดับความสามารถในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของ เบทาโกร ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิเคราะห์การใช้จ่าย ตลอดจนการค้นหาซัพพลายเออร์ทางเลือกอื่นๆ อย่างง่ายดายบนระบบที่มีมาตรฐานเดียวกัน เมื่อปีที่ผ่านมา เราดำเนินการจัดซื้อจัดหามากกว่า 200 ครั้ง โดยมีไฟล์สัญญาดิจิทัลมากกว่า 300 ฉบับที่สร้างขึ้นผ่าน Ariba Network ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
ดร.ถนอมวงศ์ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานบริหารส่วนกลาง เครือเบทาโกร
จากการต่อสัญญาการใช้งาน SAP Ariba Strategic Sourcing Suite รวมถึงชุดโซลูชั่น SAP Ariba ที่จะนำมาเสริมทัพเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นด้านการจัดซื้อ การจัดการกระบวนการและประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ และการติดต่อซื้อขายผ่านระบบอัตโนมัติ เบทาโกรตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดซื้อ ขณะเดียวกัน ยังต้องการมอบประสบการณ์เชิงบวกให้กับพนักงานและซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย รวมถึงในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ อีกด้วย
ที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของนวัตกรรมอัจฉริยะที่เข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินการจัดซื้อภายในองค์กรของเบทาโกร ระบบแนะนำการจัดซื้อถือเป็นความสามารถหลักในโซลูชั่น SAP Ariba Buying ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานระบบของเบทาโกร ได้รับประสบการณ์การซื้อที่สะดวกสบายและลดความซับซ้อนในการซื้อสินค้าและบริการทางอ้อมบนแพลตฟอร์มที่ใช้งานจากที่ใดก็ได้ “เมื่อมีการเชื่อมต่อระบบแนะนำการจัดซื้อที่ดี พนักงานของเราก็จะสามารถจัดซื้อสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างง่ายดายผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวหรือโทรศัพท์มือถือ โดยทำรายการตามนโยบายการจัดซื้อขององค์กร ภายใต้ลิสต์ซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถต่อรองราคาได้ นอกจากนี้ การออกใบสั่งซื้อและใบแจ้งหนี้ในรูปแบบดิจิทัล ยังเสริมการทำงานร่วมกันกับซัพพลายเออร์ได้ฉับไวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสามารถเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรเดินหน้าไปได้อย่างคล่องตัว ช่วยลดต้นทุนจากระบบที่ทำงานแบบอัตโนมัติ มีมาตรฐาน ยกระดับการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ของเราให้ดีขึ้น”
“การลงทุนต่อสัญญาครั้งใหม่ในโซลูชั่น SAP Ariba ต่อยอดมาจากความสำเร็จของการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการปรับใช้เทคโนโลยีของ เอสเอพี มาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราได้ปรับระบบการใช้จ่ายขององค์กรให้มีประสิทธิภาพโดยเน้นไปที่วัสดุทางอ้อม เราจึงวางแผนที่จะใช้โซลูชัน SAP Ariba เข้ามาจัดการการใช้จ่ายในวัสดุทางตรงด้วย ซึ่งจะช่วยให้เบทาโกร เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคงคลัง ต้นทุนวัตถุดิบ และศักยภาพการผลิตของเราได้” ดร.ถนอมวงศ์ กล่าวปิดท้าย
เอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า
เอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี อินโดไชน่า กล่าวว่า "เราเริ่มเห็นดีมานด์ของลูกค้าในการพัฒนากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอัตโนมัติและทำงานแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านซัพพลายเชน แน่นอนว่าโควิด-19 ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่องค์กรต่างๆ ควรพลิกโฉมเป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ และองค์กรที่จะสามารถปรับตัวในภาวะวิกฤติได้ดีที่สุด คือองค์กรที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทางธุรกิจ การลงทุนครั้งใหม่ของเบทาโกร ในโซลูชั่น SAP Ariba จะเพิ่มความได้เปรียบจากเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่เติบโตต่อเนื่อง และเมื่อ เบทาโกร สามารถสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ก็จะสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน”
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SAP News Center ติดตามเอสเอพีทางทวิตเตอร์ได้ที่ @sapnews
เกี่ยวกับ เอสเอพี (SAP)
ในฐานะบริษัทที่ช่วยพลิกโฉมองค์กรลูกค้าสู่อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพี เป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันระดับองค์กร ที่ได้ช่วยเหลือองค์กรขนาดต่างๆในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดย 77% ของรายได้จากการทำธุรกรรมของโลกนั้นเกิดขึ้นบนระบบของเอสเอพี นอกจากนี้เทคโนโลยีแมชชีน เลิร์นนิ่ง อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงของเอสเอพี ช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพีช่วยให้ผู้คนและองค์กรเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เราลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของเราได้อย่างที่ต้องการและต่อเนื่อง ชุดแอปพลิเคชันและบริการครบวงจรของเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและภาครัฐกว่า 25 อุตสาหกรรมทั่วโลก สามารถทำกำไร ปรับตัว และสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเครือข่ายลูกค้าพาร์ทเนอร์ พนักงาน และผู้นำทางความคิดที่มีอยู่ทั่วโลก เอสเอพีช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com
คำแถลงการณ์ใด ๆ ที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เป็นแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์เอกชนของปีพ. ศ. 2538 คำต่างๆ เช่น "คาดการณ์" "เชื่อ" "ประมาณการณ์" "คาดว่า", "ตั้งใจ" "อาจ" "ควร" และ "จะ" และสำนวนที่คล้ายคลึงกันที่เกี่ยวข้องกับเอสเอพี ถือเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า เอสเอพีไม่มีข้อผูกมัดในการเผยแพร่หรือแก้ไขแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณชน แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินในอนาคตของเอสเอพี จะถูกกล่าวถึงอย่างละเอียดยิ่งขึ้นในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) รวมถึงรายงานประจำปีล่าสุดของเอสเอพี ในแบบฟอร์ม 20-F ที่ยื่นต่อ SEC ผู้อ่านต้องได้รับการเตือนว่าอย่าให้เชื่อมั่นในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์เหล่านี้เกินควร ซึ่งได้ระบุไว้ในวันที่พูดเท่านั้น
© 2020 SAP SE สงวนลิขสิทธิ์.
SAP และผลิตภัณฑ์และบริการของ SAP อื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้รวมถึงโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SAP SE ในประเทศเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ โปรดดู https://www.sap.com/copyright สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าและประกาศต่างๆ
สำหรับลูกค้าที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เอสเอพี:
ศูนย์ลูกค้าทั่วโลก: +49 180 534-34-24
สำหรับลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกา: โทร 1 (800) 872-1SAP (1-800-872-1727)
SAP SE (NYSE: SAP) today announced that Betagro Group, one of Thailand's largest agro-industrial and food companies, has renewed its investment in SAP® Ariba® solutions to further digitalize its end-to-end procurement processes and optimize its spend management to effectively take on future disruptions.
Founded in 1967, Betagro Group has been a staple in Thailand’s development for more than 50 years and is planning to expand its business across the Southeast Asian region. For Betagro, procurement becomes a strategic function that can drive value and set a foundation for future growth of the company.
Betagro’s business transformation in partnership with SAP began in 2008. “Successful adoption requires much more than technology. Strategic partnership is key to helping us holistically transform our business into an intelligent enterprise,” Dr. Thanomvong Taepaisithphongse, Chief Administrative Officer, Betagro Group, said. “Since 2008, we have adopted SAP Ariba solutions for sourcing, contracts, catalogs, supplier information management and supplier collaboration. As a result, Betagro has made better sourcing decisions with spend analysis insights and has found alternative sources of supply on a single network. Just last year we achieved over 200 sourcing events with more than 300 contracts created digitally via Ariba Network, the largest digital business network in the world.”
By renewing the SAP Ariba Strategic Sourcing Suite and by leveraging additional SAP Ariba solutions for Strategic Sourcing , Buying, Supplier Lifecycle and Performance, and Commerce Automation across its operations, Betagro aims to further increase procurement efficiencies while providing a positive experience for its staff and suppliers across Thailand, Cambodia, Lao PDR and Myanmar.
COVID-19 has illustrated the power of intelligent innovation across Betagro’s procurement operations. The Guided Buying capability within the SAP Ariba Buying solution gives Betagro users a simple buying experience to purchase indirect goods and services in or out of the office. “With Guided Buying, my employees can buy what they need on a mobile device from our preferred suppliers at negotiated prices and in compliance with corporate purchasing policies. Supplier collaboration is better managed and more efficient with digital purchase orders and invoices. This has helped Betagro achieve process efficiencies and cost savings from automation, standardization and improved collaboration with our suppliers,” Dr. Thanomvong shared.
“Our recent renewal investment in SAP Ariba solutions is a result of the successful strategic partnership cultivated throughout the years with SAP,” Dr. Thanomvong added. “Now that we have optimized our spend on indirect materials, we plan to utilize SAP Ariba solutions to help manage our spend on direct materials too. This will help Betagro optimize our inventory, raw material costs and manufacturing efficiency.”
Atul Tuli, Managing Director of SAP Indochina, said: “We are seeing an increasing demand from our customers for the automation of procurement processes and the consolidation of supply chain management. COVID-19 has underscored the urgent need for every company to become an intelligent enterprise and the most resilient companies were those that embraced technology to transform their business processes. Betagro’s renewed investment in SAP Ariba solutions will extend the benefits to its growing network of suppliers. By fostering stronger relationships with its business partners, Betagro can provide more value for its customers too.”
