ความวิจิตรของงานฝีมือไทยโอบกอดจินตนาการแบบฝรั่งเศส

สยามพารากอนถูกยกระดับให้เป็นจุดหมายใหม่ของศิลปะและเครื่องประดับระดับโลก เมื่อ Cartier เปิดประตูบูติคแฟลกชิปสองชั้น พื้นที่กว่า 758 ตารางเมตรภายใต้คอนเซ็ปต์ “Heavenly Cartier” ที่ตีความความสุขสมหวังราวสรวงสวรรค์ผ่านงานออกแบบร่วมสมัยผสานมรดกไทยอย่างวิจิตรบรรจง

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ชั้นล่าง เส้นสายและพื้นผิวของบูติคพาเราละลายเข้าสู่โลกของเครื่องประดับไอคอนิค – จาก LOVE ไปจนถึง Panthère de Cartier – ท่ามกลางโคมไฟหยดน้ำและพรมที่ชวนให้นึกถึงฝนโปรยบนผืนดินไทย ผนังประดับกระจกสีเฉดทับทิม มรกต และแซฟไฟร์ ย้อมมือโดยศิลปินไทยชั้นครู ร้อยเรียงตำนาน Tutti Frutti ของเมซงในมิติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

บรรยากาศทอดยาวไปถึงห้องรับรองและโซนแอคเซสเซอรีที่ได้แรงบันดาลใจจากสวนสวรรค์ ปรากฏผ่านภาพพรรณไม้เมืองร้อน เส้นใยย้อมสีธรรมชาติ และซุ้มรวงข้าวสีทองที่เปรียบเสมือนประตูพาคุณเดินทางสู่โลกแห่งการค้นพบ พร้อมเรือนเวลาไอคอนิคอย่าง Santos de Cartier และ Tank ที่จัดวางราวกับนิทานในป่าลึกลับ

บันไดวนกลางบูติคคือเส้นทางลอยฟ้าที่พาคุณขึ้นไปสู่ “สวรรค์ชั้นฟ้า” พื้นที่แห่งเพชรและไฟน์จิวเวลรี่ส่องประกายบนฉากหลังศิลาดลและงานปักลูกปัดทองฝีมือศิลปินไทยรุ่นใหม่ ราวกับกลีบดอกโมกต้องแสงแรกของเช้าวันใหม่ — ที่นี่ ความฝันถูกทำให้เป็นรูปทรง และความหรูหราถูกถักทอด้วยมือมนุษย์

ห้องวีไอพีคือการบรรจบกันของความหรูหราและศิลปะดั้งเดิม ผ่านงานลงรักปิดทองผสานเปลือกไข่ของศิลปินแห่งชาติ มานพ วงศ์น้อย ที่ต้องใช้เวลากว่าสี่เดือนในการสร้างสรรค์ ให้พื้นผิวสะท้อนประกายราวท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว — เป็นพื้นที่ที่ทำให้คุณเชื่อว่า คำอธิษฐานสามารถมีผิวสัมผัสได้จริง

นอกจากความงดงามในตัวอาคาร Cartier ยังนำวินโดว์ดิสเพลย์เอ็กซ์คลูซีฟจากปารีสมาจัดแสดง และเปิดตัวคอลเลกชันลิมิเต็ด Cartier Libre Tuttitutti เฉพาะที่บูติคนี้เท่านั้นจนถึง 19 กันยายน 2568

บูติคแฟลกชิปแห่งใหม่นี้ไม่ใช่แค่ร้านเครื่องประดับ แต่คือจักรวาลแห่งศิลปะ ความฝัน และวัฒนธรรม ที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือน ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เพิ่งถูกนิยามใหม่โดย Cartier


Previous
Previous

Jeux de Liens บทกวีแห่งสีรุ้ง

Next
Next

สิวหายใน 48 ชั่วโมงจริงไหม? เจลลูกพรุนตัวนี้ทำให้อยากทิ้งยาแต้มสิวเดิมทันที?