การเดินทางครั้งใหม่บนเส้นทาง Soum-son เปิดประสบการณ์การเดินป่าที่เชื่อมโยงชุมชนในลาวเหนือ
ในดินแดนลาวเหนือที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงและหมู่บ้านเล็กๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง เส้นทางเดินป่าใหม่ที่ชื่อว่า Soum-son Trail กำลังจะกลายเป็นบทใหม่ของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่เส้นทางที่พาผู้คนไปพบกับทิวทัศน์งดงาม แต่ยังเป็นเส้นทางที่สร้างความหมายใหม่ให้กับคำว่า "การเดินทาง" ผ่านการเรียนรู้และการเติบโตของทั้งนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น
การเดินทางครั้งแรกจะเริ่มต้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ กับทริปพิเศษ 4 วัน นำทีมโดยหญิงสาวชาวออสเตรเลียหกคน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง 12 วันทั่วลาวเหนือ ที่ออกแบบโดย Camino Women (ออสเตรเลีย) และ Khiri Travel (ลาว) นี่ไม่ใช่แค่ทริปเดินป่าทั่วไป เพราะทุกก้าวเดินเต็มไปด้วยเรื่องราว—จากการล่องเรือช้าๆ บนแม่น้ำโขง นั่งรถไฟข้ามภูเขา เยี่ยมชมถ้ำพุทธศักดิ์สิทธิ์ และสัมผัสชีวิตช้างในป่า ไปจนถึงการเดินทุ่งนากับชาวบ้านจากหลากหลายชาติพันธุ์ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสำรวจเมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย
แต่สิ่งที่ทำให้เส้นทาง Soum-son โดดเด่นไม่ใช่แค่ความงดงามทางธรรมชาติ หากคือความตั้งใจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชน ทั้งสามหมู่บ้านเล็กๆ ที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางขุนเขาได้รับการสนับสนุนและอบรมเพื่อเตรียมตัวต้อนรับนักเดินทางอย่างอบอุ่น ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ชายหญิงกว่า 26 คนจากหมู่บ้านเหล่านี้ได้เข้ารับการอบรมที่หลวงพระบาง ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการการท่องเที่ยวเชิงชุมชน มาตรฐานความปลอดภัย การดูแลรักษาความสะอาด การจัดการขยะ การเตรียมอาหาร และการบริการลูกค้า—ทุกอย่างถูกสอนผ่านการลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ในฐานะเจ้าบ้านของโลก
Julie Beaufrère ผู้จัดการประจำประเทศลาวของ Khiri Travel อธิบายว่า การท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้เสริมสำหรับชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นชาวนาปลูกข้าว แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้แบบสองทาง นักเดินทางจะได้เรียนรู้จากชาวบ้าน และในทางกลับกัน ชาวบ้านก็จะได้สัมผัสกับมุมมองใหม่ๆ จากผู้มาเยือน การสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมกับการเปิดรับสิ่งใหม่คือหัวใจสำคัญของแนวคิดนี้
หลังจากทริปเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ Camino Women และ Khiri Travel ตั้งเป้าที่จะจัดกลุ่มนักเดินป่าอีกห้ากลุ่มในปี 2025 และเพิ่มเป็นสองกลุ่มต่อเดือนในช่วงฤดูท่องเที่ยวถัดไปตั้งแต่พฤศจิกายน 2025 ถึงกุมภาพันธ์ 2026 เพื่อคงความต่อเนื่องและความลึกซึ้งในการเรียนรู้ แต่ละกลุ่มจะมีไกด์ท้องถิ่นประจำหมู่บ้านคอยดูแล ร่วมกับไกด์ชุมชนที่มากประสบการณ์จาก Khiri Travel ซึ่งจะช่วยถ่ายทอดเรื่องราวของดินแดนและผู้คนได้อย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่การอบรม Khiri Reach ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของ Khiri Travel และ Camino Women ยังได้บริจาคคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสองเครื่อง หนังสือเรียน และอาหารแปรรูปให้กับหมู่บ้านบนเส้นทางเดินป่า เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว เพราะสำหรับพวกเขา การท่องเที่ยวไม่ควรเป็นเพียงการผ่านไป แต่ควรสร้างร่องรอยของความดีงามไว้เบื้องหลัง
Lisa O’Donnell ผู้ออกแบบทริปหลักของ Camino Women ผู้เคยสำรวจเส้นทางนี้ร่วมกับ Beaufrère ในปีที่ผ่านมา กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า "การเตรียมตัวและการฝึกอบรมทั้งหมดที่เราทำร่วมกับชุมชนได้แสดงผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเช่นนี้" เธอเชื่อว่าการใช้เวลา 4 วันท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านในลาว จะเปลี่ยนมุมมองของนักเดินทาง Camino Women อย่างลึกซึ้ง
ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการประสานงานระหว่าง Leatherback Travel บริษัททัวร์จากออสเตรเลียที่ดูแลแบรนด์ท่องเที่ยวเฉพาะทาง เช่น Camino Women, Patch Adventures, Magnificent Rail และ Fencox Travel กับ Khiri Travel ที่มีประสบการณ์ในการจัดทัวร์ในเวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชาตั้งแต่ปี 2023
Willem Niemeijer ผู้ก่อตั้ง Khiri Travel กล่าวเสริมว่า "เส้นทาง Soum-son และประสบการณ์การเดินทาง 10 วันในลาวเหนือเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือใกล้ชิดระหว่าง Leatherback Travel และ Khiri เรามุ่งหวังที่จะพัฒนาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่รับผิดชอบและฟื้นฟูได้มากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้นี้"
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การไปถึงจุดหมาย แต่คือการได้สัมผัสหัวใจของสถานที่และผู้คน เส้นทาง Soum-son อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังค้นหา
ร่วมแสดงความคิดเห็น
คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงชุมชนแบบนี้?
❤️ รู้สึกอบอุ่นใจที่ได้ช่วยเหลือชุมชน
🌿 อยากลองเดินป่าบนเส้นทาง Soum-son
🤔 คิดว่าการท่องเที่ยวแบบนี้อาจส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น
