ไอคอนคราฟต์  จับมือ “เธียเตอร์” เปิดตัวคอลเล็กชั่น Theatre 2022 - Sustainable

จ๋อม ศิริชัย ทหรานนท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เธียเตอร์ ร่วมถ่ายภาพกับผู้บริหารไอคอนคราฟต์ และแขกผู้มีเกียรติ

ไอคอนคราฟต์ พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย ชั้น 4 – 5 ไอคอนสยาม ร่วมกับแบรนด์ Theatre แบรนด์ดีไซเนอร์ไทย ซึ่งอยู่คู่วงการแฟชั่นมานานกว่า 37 ปี โดยคุณจ๋อม ศิริชัย ทหรานนท์ จัดงาน “Theatre 2022 Sustainable” นำเสนอคอลเล็กชั่นใหม่ปี 2022 ของแบรนด์เธียเตอร์ (Theatre) ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainable เพื่อร่วมเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนวงการแฟชั่น ควบคู่ไปกับความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นจิตสำนึกของเยาวชน รวมไปถึงผู้บริโภคแฟชั่นส่วนใหญ่ให้หันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น

จ๋อม ศิริชัย ทหรานนท์ ผู้ก่อตั้ง แบรนด์ เธียเตอร์

คุณปารีสา จาตนิลพันธุ์ ผู้บริหารไอคอนคราฟต์ กล่าวถึงการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ว่า ไอคอนคราฟต์ เป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและแหล่งรวมช่างฝีมือไทยทั่วประเทศที่ใหญ่ที่สุด พร้อมเชิดชูและสร้างความภาคภูมิใจกับความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถ่ายทอดในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ของไทย นำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ “The creative inspiration platform for Thai craftsmen, to love, enjoy and be proud of modern Thai-ness” เพื่อเป็นเวทีแสดงศักยภาพและสนับสนุนส่งเสริมผลงานของสุดยอดช่างฝีมือไทย ล่าสุด ไอคอนคราฟต์ ได้ร่วมกับแบรนด์  เธียเตอร์  แบรนด์ดีไซเนอร์ไทย ที่อยู่คู่กับวงการแฟชั่นไทยมาอย่างยาวนาน โดยครั้งนี้ถือเป็นการนำเอาดีเอ็นเอของแบรนด์ คือ Sustainable ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง นำมาขยายแบบจัดเต็มเป็นคอลเลคชั่นแห่งปี 2022 โดยจะมาจัดนิทรรศการที่ไอคอนคราฟต์ เพื่อให้ลูกค้าเหล่าแฟนคลับเธียเตอร์ ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันทำให้เกิดความยั่งยืนในวงการแฟชั่นต่อไป

จ๋อม ศิริชัย ทหารนนท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เธียเตอร์ และ อาร์ต อารยา อินทรา ดีไซเนอร์แบรนด์ เธียเตอร์

คุณศิริชัย ทหรานนท์ (จ๋อม) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เธียเตอร์ แบรนด์ดีไซเนอร์ไทย ซึ่งอยู่คู่วงการแฟชั่นมานานกว่า 37 ปี  กล่าวถึงการจัดงานในปีนี้ว่า  ปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของเธียเตอร์ ทั้งรูปแบบและภาพลักษณ์ของแบรนด์  โดยคอลเล็กชั่นล่าสุดนี้ มุ่งเน้นเรื่องการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน เริ่มจากกระบวนการผลิตคอลเลคชั่น Sustainable ที่เริ่มจากแนวความคิด Slow fashion, Reuse, Recycle และ Upcycle โดยเน้นงาน craft ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญคู่กับแบรนด์มายาวนาน ภายใต้แนวความคิดดังกล่าว นำมาสู่การสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นใน 3 ประเภท ได้แก่

1. สินค้า ต้นแบบสำหรับ made to order ในแนว one of a kind โดยเป็นสินค้าที่เกิดจากการนำเศษผ้าและวัสดุเหลือใช้ นำกลับมาใช้ใหม่ บวกความคิดสร้างสรรค์และเทคนิคเสริม ช่วยทำให้ตัวสินค้าโดดเด่น และมีความสวยงามเฉพาะตัว ไม่สามารถทำซ้ำได้เหมือนเดิม 100% ประกอบด้วย ชุดเดรส เสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต กางเกง กระเป๋า และรองเท้าบูท

 2. สินค้า Limited Edition ที่มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถทำเพิ่มได้ จัดทำขึ้นจากผ้าและวัสดุที่คงเหลือในโรงงาน ทั้งผ้าที่มีตำหนิจากความเก่าเก็บ และผ้าค้างสต็อก นำมาผนวกกระบวนการและความคิดสร้างสรรค์แบบยั่งยืนและ ย้อมสีธรรมชาติ โดยร่วมกับแบรนด์ KiRee จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีจำนวนจำกัด ประกอบด้วยเสื้อเชิ้ต เดรส ชุด pyjamas เสื้อเชิ้ต และกางเกง

3. สินค้าที่จัดทำขึ้นเพื่อการกุศล หารายได้ช่วยสถานสงเคราะห์เด็ก Life Impact อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยเป็นสินค้าประเภทเสื้อยืดพิมพ์ลาย ดอกไม้วาดโดย ศิลปินไทย “กานต์ กาญจนามัย” ดีไซเนอร์เลือดใหม่ ซึ่งใช้แนวคิดการ reuse กระดาษใบเสร็จรับเงินเหลือใช้ มาเป็นพื้นในการวาด ทำให้ลายดอกไม้ที่ได้มีเสน่ห์แปลกตา สวยงาม ขณะที่เสื้อยืดจัดทำขึ้นจากผ้าฝ้าย พิมพ์ด้วยเทคนิค silk screen แบบทำมือ 10 สี มีจำนวนจำกัดเพียง 100 ตัว และมีหมายเลขกำกับ ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้สถานสงเคราะห์เด็กทั้งหมด

การเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่นี้ จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2565  ณ  ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) พื้นที่แห่งงานฝีมือสุดสร้างสรรค์ของคนไทย ชั้น 4 ไอคอนสยาม ในรูปแบบของนิทรรศการ Exhibition  โดยบริเวณงานจัดให้มีการแสดงผลงานต่างๆ เพื่อสื่อสารแนวคิดของ Sustainable เป็นภาพวาดจากกระดาษ reuse ของศิลปิน “กานต์ กาญจนามัย” ทั้ง 8 ชิ้นงาน พร้อมเปิดประมูลภาพ (ราคาต่อภาพ เริ่มต้นที่ 15,000 บาท) เพื่อรวบรวมรายได้สมทบทุน บริจาค ช่วยเหลือสถานสงเคราะห์เด็ก life impact ทั้งหมด โดยไม่หักค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ จะมีการจัดแสดงเสื้อผ้าคอลเลคชั่น Theatre 2022  งาน one of a kind ใน Exhibition ตั้งโชว์ทั้ง 10 ชุด  และจำหน่ายเสื้อผ้า limited edition ในจำนวนจำกัดอีกด้วย

ภายในงานเพิ่มความพิเศษ ด้วยการจัดพื้นที่โชว์ผลงานประติมากรรมดอกไม้ ซึ่งได้ทำงาน collaboration ร่วมกับแบรนด์ Permaflora  แบรนด์ดอกไม้ผ้าทำมือที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทยอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีผลงานที่ร่วมกับศิลปิน คุณอีริค โตบัว  (Eric Tobua)  นักประดิษฐ์งานศิลป์จากเศษขยะ ซึ่งได้จัดทำประติมากรรมที่สวมใส่ได้จากดอกแพนซีทำมือ โดย Permaflora จำนวน 250 ดอก และจัดแสดงผลงานกระเป๋า tote bags ที่ได้ collaboration กับ Thais แบรนด์กระเป๋าที่ผลิตจากเศษหนังเหลือใช้จากอุตสาหกรรม โดยใช้เศษหนังมาอัดใหม่ผ่านกระบวนการที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สกรีนทับด้วยลายดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคอลเล็กชั่นนี้

สำหรับนิทรรศการ จะจัดแสดงผลงานผ้าบาติกพิมพ์ลาย block print monogram และย้อมสีธรรมชาติ จากการ collaboration ร่วมกับแบรนด์ KiRee กลุ่มชุมชนมัดย้อมสีธรรมชาติ บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช โดยจัดแสดงตัวอย่างการใช้สีจากธรรมชาติ  อาทิ   ใบมังคุด ครั่ง แก่นไม้ขนุน ลูกเนียง ฝักสะตอ เป็นต้น (โดยลาย monogram theatre ที่ใช้ในคอลเลคชั่นนี้ ถือเป็นการเปิดตัวลาย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก) และยังมีการจัดแสดงผลงานรองเท้าบูท upcycling จากเศษหนัง โดย collaboration ร่วมกับแบรนด์ Tango แบรนด์เครื่องหนังที่อยู่คู่กับวงการแฟชั่นไทยมายาวนานเช่นกัน โดยใช้เศษหนังที่เหลือจากการทำงานมาประกอบใหม่ ให้เกิดเป็นศิลปะแบบ patchwork ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทั้ง Tango และ Theatre

อีกหนึ่งไฮไลท์ ของการจัดงานครั้งนี้ จะจัดจำหน่ายเสื้อผ้า ready to  wear จากผ้าสต๊อก และเศษผ้าเหลือใช้นำกลับมาผลิตเป็นเครื่องแต่งกายใหม่ในแนวผสมผสาน ซึ่งมีจำนวนจำกัด และเข็มกลัดดอกไม้ทำมือโดย Permaflora ดอกไม้ทั้ง 7 แบบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้ถูกจัดทำในรูปแบบเข็มกลัด จำหน่ายพร้อมกล่องเสื่อกระจูดกับใบลาน จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโคกเมา จังหวัดพัทลุง

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักให้ผู้บริโภคกลุ่มแฟชั่น หันมาใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอกย้ำ และสื่อสารถึงแนวคิดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยการจัดแสดงภาพจากวิดีโอ สัมภาษณ์บุคคลตัวอย่างที่เข้าร่วมโครงการ sustainability, เบื้องหลังการทำงานในคอลเล็กชั่นนี้ รวมไปถึงขั้นตอนในการผลิตสินค้าบางประเภทที่เป็นไฮไลต์สำคัญของงาน โดยภายในงานทางแบรนด์เธียเตอร์ จะทำการถ่ายภาพแคมเปญของคอลเล็กชั่น Sustainable โดยช่างภาพระดับแถวหน้าของประเทศ คุณ ณัฐ ประกอบสันติสุข พร้อมพูดคุย สัมภาษณ์บุคคลพิเศษที่ทางแบรนด์เลือกมาเพื่อเป็นแบบอย่างให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และเล็งเห็นถึงความสำคัญของความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม  และโลกในอนาคตต่อไป


Previous
Previous

ส่องเซเลบริตี้แถวหน้า กับ Dolce & Gabbana คอลเล็กชั่นฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิ 2022

Next
Next

โซอี ซัลดานา สวมชุดจาก Alexander McQueen ร่วมงานประกาศรางวัล CinemaCon Big Screen Achievement