ตุลย์ ภากร นักออกแบบชีวิต ในวันที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ

เชื่อเถอะว่า ไม่ว่าใครก็ตามก็อยากจะออกแบบชีวิตของตัวเองให้ออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุด ทั้งในแง่ของการเรียน การทำงาน และชีวิตส่วนตัว แต่ในความเป็นจริง พอเราคิดจะสู้ชีวิต ชีวิตกลับสู้เรากลับ เส้นทางการใช้ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน มีบททดสอบและอุปสรรคต่างๆ ท้าทายเราตลอดเวลา จนท้ายที่สุด หลายคนอาจต้องล้มเลิกชีวิตที่วาดฝันไว้ และยอมแพ้กับโชคชะตาตัวเอง

Merz Aesthetics ประเทศไทย บริษัทชั้นนำระดับโลก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องอัลเทอร่า และเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงาม เพื่อทุกความมั่นใจของคนไทย ร่วมออกค้นหาจุดเปลี่ยนของชีวิต เพื่อสร้าง Confidence to be… ดูดีมั่นใจในแบบฉบับที่เป็นตัวเอง กับการกลับมาอีกครั้งผ่านรายการ Help Me Please by Merz Aesthetics ที่พร้อมจะเป็นสื่อกลางรับฟังทุกเรื่องราวปัญหาที่มากระทบความมั่นใจ ความสุข หรือความภูมิใจในตัวคุณเอง อีกทั้งยังช่วยแบ่งปันข้อคิดให้คุณมีจิตดี กายดี ดูดีในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด สำหรับ EP ที่ 5 นี้ทางรายการได้เรียนเชิญ เมิร์ซกูรู - พญ. อัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ Medisci Anti-Aging Center และอาจารย์พิเศษสาขาวิชาผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่จะมาช่วยรับฟังเรื่องราวและให้ข้อคิดดีๆ คอยจุดประกายแรงบันดาลใจ ร่วมกับ ตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย นักแสดงที่แจ้งเกิดจากซีรีส์วายชื่อดัง “Together With Me อกหักมารักกับผม” ผู้สวมบทบาทในหลากหลายวงการ นอกจากการเป็นนักแสดงแล้ว ตุลย์ยังควบอาชีพเป็นนายแบบ และสถาปนิก เรียกได้ว่ามีความสามารถหลากหลายและรอบด้านเลยทีเดียว

ในสายตาใครหลายคน ตุลย์อาจเป็นหนึ่งในคนที่วางแผนชีวิตได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ จนสามารถประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เส้นทางชีวิตของตุลย์ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดเลย มีหลายครั้งที่ตุลย์ต้องเผชิญกับอุปสรรคและความไม่แน่นอนทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยเหตุนี้ ตุลย์จึงหาวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ยอมรับในความไม่มั่นคงของชีวิต จนเจอทางออกที่เหมาะสมและลงตัวกับตนเองในที่สุด

พญ. อัจจิมา สุวรรณจินดา ผู้อำนวยการศูนย์ Medisci Anti-Aging Center และอาจารย์พิเศษสาขาวิชาผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี

ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวัง จึงทำทุกอย่างออกมาเต็มที่

ในช่วงที่ตุลย์ยังเด็กอยู่นั้น บ้านในความคิดของตุลย์ก็ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยเท่าไรนัก ด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ขัดแย้งและเปลี่ยนไป ตุลย์ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนที่นอนที่อยู่อาศัยถึง 2-3 ครั้งภายในสัปดาห์เดียว ทำให้เกิดคำถามในใจเลยว่า “ทำไมเราเหนื่อยจัง ทำไมเราต้องจัดของตลอดเวลา ทำไมเราไม่ได้เรียนหนังสือสบายๆ เหมือนคนอื่นเขา” อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ตุลย์ได้ตระเวนหาบ้านใหม่ในแต่ละหมู่บ้าน ก็ได้สังเกตเห็นลักษณะอาคาร สิ่งก่อสร้าง การออกแบบจนรู้สึกคุ้นเคย กลายเป็นคนที่ชอบดูบ้านไปโดยปริยายและจุดประกายความฝันของการเป็นสถาปนิกออกแบบโครงการที่อยู่อาศัย หรือ Developer ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะเชื่อว่าการมีบ้านที่สวย น่าอยู่ จะเติมเต็มการใช้ชีวิตให้สมบูรณ์ รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยภายในตัว

นอกจากเป้าหมายการเป็นสถาปนิกแล้ว ปัญหาครอบครัวที่ตุลย์ได้ประสบตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ได้ทำให้ตนได้ฉุกคิดขึ้นมาอีกว่า ความสุขที่แท้จริงแล้วอาจหาไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่สามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตนเอง และหากต้องการบรรเทาปัญหาต่างๆ  การทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน มีวินัย    มีความรับผิดชอบ รวมไปถึงวางแผนในแต่ละก้าวของชีวิต ก็อาจจะช่วยปูทางอนาคตให้ออกมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติได้

เมื่อการแสดงไม่มีสูตรสำเร็จเหมือนการวางแผนชีวิต

ขณะที่กำลังศึกษาอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตุลย์ก็ได้รับโอกาสในวงการบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินแบบในงาน Elle Fashion Week และรับบทบาทนักแสดงจากละครโทรทัศน์ รวมไปถึงผลงานแจ้งเกิดโด่งดังอย่างซีรีส์ Bad Romance The Series และ Together with Me the Next Chapter 

ในช่วงแรกเริ่มนั้น ตุลย์ก็มองการแสดงว่าเป็นงานที่ทำได้ ฝึกซ้อมบทบาทสม่ำเสมอก็ออกมาดีได้ จึงได้ทดลองนำทักษะการวางแผนของตนเองมาใช้กับการแสดงดูบ้าง ครั้นพอได้แสดงหน้างานจริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้มากลับไม่ได้ตามที่คาดหวังเอาเสียเลย เพราะการแสดงคือการเข้าใจตัวละคร การใช้อารมณ์และอาศัยความเป็นธรรมชาติ “เราเป็นคนที่ติดคิดภาพและดีไซน์ไว้ตลอด การแสดงของเราในช่วงแรกจึงเป็นการจำบท จากนั้นก็วางแผน ออกแบบท่าทางตัวเองให้ตรงกับคำพูด แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ นักแสดงจะต้องถ่ายทอดอารมณ์และพฤติกรรมให้คนดูเชื่อว่าเราเป็นตัวละครนั้นจริงๆ” 

ด้วยเหตุนี้ งานการแสดงจึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับตุลย์เลยว่า การทำทุกอย่างให้ดีที่สุดไม่ได้การันตีความสำเร็จเหมือนตอนเรียนเสมอไป ซึ่งแพทย์หญิงอัจจิมา หรือ คุณหมอหญิง ก็ได้ให้แนวคิดในเรื่องนี้ว่า “ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากความพยายามเพียงครั้งเดียว การทำงานแต่ละครั้งต้องอาศัยความอึด และอดทน ถ้าไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ก็ต้องเรียนรู้และสู้ต่อไป” ความท้าทายที่เกิดขึ้นในวงการการแสดง จึงเป็นแรงผลักดันให้ตุลย์หันมาแก้ไขในสิ่งที่ตนเองควบคุมได้เพื่อให้ผลงานออกมาดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การแบ่งเวลาการเรียนและการแสดงให้เหมาะสม เริ่มเรียนรู้ทักษะการแสดงจากคุณครูหลายสำนัก จนไปถึงการดูแลตัวเองให้ร่างกายแข็งแรง เรียกได้ว่าในปัจจุบัน บทบาทนักแสดงของตุลย์เป็นที่จดจำในวงกว้าาง จนถึงขั้นได้รับฉายา “คู่วายอาวุโส” ร่วมกับแม็กซ์  ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์” เพราะถือว่าเป็นผู้บุกเบิกให้ละครคู่จิ้นวายเป็นที่รู้จักในกระแสหลักมากขึ้น

‘มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ผิวหนัง’ จุดเปลี่ยนสำคัญให้หันกลับมามองชีวิต ณ ปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าชีวิตของตุลย์อยู่ในขาขึ้นและกำลังไปได้สวย มีผลงานการแสดงและนายแบบหลายแบรนด์มากมาย แต่ก็เจอบททดสอบครั้งสำคัญ ซึ่งจะเป็นหมุดหมายสำคัญที่พลิกชีวิตตุลย์ในระยะยาว นั่นก็คือ “มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ผิวหนัง” 

“ผมยังไม่เชื่อตัวเองว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับผม เพราะเราพึ่งอายุ 25-26 เอง ทั้งๆ ที่ซีรีส์ก็กำลังบูม ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี มันเร็วไปนะ” จากที่ตุลย์พยายามดูแลตัวเองมาอย่างดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แม้ว่าโรคที่เกิดขึ้นนั้นปัจจุบันหายสนิทแล้ว ตุลย์เองก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจพอสมควร ทำให้ตุลย์ต้องกลับมานิยามการใช้ชีวิตใหม่ เลิกจินตนาการตัวเองไปถึงอนาคตอันไกล และคาดหวังว่าทุกอย่างจะต้องดีหากมีการวางแผนที่ดี แต่เริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน รับมือกับสภาวะความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จนกระทั่งปรับความคิดได้ เพื่อที่ว่าต่อให้เจอความไม่แน่นอน หรือ สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดอื่นๆ ตนเองก็สามารถก้าวผ่านและใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น หยิบจับความสุขเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น

3 วิธีออกแบบชีวิตให้ลงตัวในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน 

กับเรื่องราวความสำเร็จของการเป็นนักแสดงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของตุลย์นั้น คุณหมออัจจิมาก็ได้แนะนำเพิ่มเติมถึงวิธีการวางแผนชีวิตว่าจะทำอย่างไรให้เป้าหมายที่เราวางไว้นั้นประสบความสำเร็จ โดยที่ยังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในทุกขณะ ไม่เครียดจนเกินไป อีกทั้งต่อให้มีอุปสรรคใดใด ก็ยังคงรับมือและสู้ต่อไปได้ ได้แก่ 3 วิธีดังต่อไปนี้

1.       ชีวิตดีๆ เราสามารถดีไซน์เองได้  ต่อให้โลกพัดพาเราไปเจอสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่แค่ไหน เส้นทางชีวิตเต็มไปด้วยอุปสรรคเพียงใด ถ้าเรามีทัศนคติแง่บวกต่อชีวิต เราก็จะเห็นทางเลือกอื่นๆ ที่จะช่วยนำพาชีวิตให้ดีขึ้น และรองรับแรงกระแทกจากปัญหาให้เบาลงได้

2.       ความสำเร็จเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแพสชันและความมุ่งมั่นที่มี การมีเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าขาดพลังในการทำต่อก็ไม่ช่วยให้เกิดผลสำเร็จได้ ดังนั้น ต้องพัฒนาตนเองจากภายใน จากการดูแลตัวเองให้ดูดี ร่างกายแข็งแรง ถ้าภายในเราดี การทำอะไรหลายๆ อย่างก็จะง่ายดายและเป็นใจมากขึ้น

3.       เมื่อความไม่แน่นอนในชีวิตเกิดขึ้น ให้พิจารณาอย่างมีสติ พอเราเผชิญกับอุปสรรค เราก็มักจะแสดงออกด้วยความรู้สึกในแง่ลบตลอดเวลา ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่ได้เกิดคำตอบ หรือ ทางออกที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ดังนั้นเวลาที่เจออุปสรรค ให้หยุดความรู้สึกทำร้ายจิตใจตัวเองไปชั่วครู่ก่อน แล้วตั้งสติ เรียงลำดับปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วค่อยแก้กันไปตามขั้นตอน เพื่อที่จะได้ทางออกออกมาลงตัวกับตนเองมากที่สุด

ก่อนจะจบรายการ คุณหมออัจจิมาก็ได้กล่าวย้ำถึงเรื่องทางเดินของชีวิตไว้ว่า ความไม่แน่นอนนั้นเกิดขึ้นได้ตลอด และแต่ละครั้งคลื่นความรุนแรงก็แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าเราจะตอบสนองกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร เราจะปล่อยตัวเองให้เหตุการณ์นั้นเข้ามาควบคุมจิตใจ หรือจะเป็นคนเข้าไปดีไซน์ทางแก้ไขนั้นด้วยตนเอง ทัศนคติจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปได้


Previous
Previous

เปิดจักรวาลหนังสัตว์ประหลาด I AM MONSTER LINE UP 2022

Next
Next

เปิดตัวครั้งแรกของเอเชีย!! ALLY GLOBAL MANAGEMENT หนึ่งเดียวของการลงทุนแบบไพรเวท อิควิตี้