BOTTEGA VENETA คอลเล็กชั่น SUMMER 2023
“โลกใบนี้คือห้องขนาดย่อม: แนวคิดสุดแสนเรียบง่ายนี้คือที่มาของคอลเล็กชั่นความแตกต่างแห่งตัวตนอันเพียบพร้อม ซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านดินแดนของ Gaetano Pesce ณ ดินแดนแห่งนี้ โลกสองใบจะมาขนานเทียบเคียงกัน ในขณะที่การเดินหน้ารังสรรค์ผลงานที่ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวและ quite power ยังคงดำเนินต่อไป” Matthieu Blazy กล่าว
Gaetano Pesce กล่าวว่า “ผลงานชิ้นนี้คือการแสดงความเคารพต่อความแตกต่างเป็นผลงานที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมนุษย์อย่างปฎิเสธไม่ได้ เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนแล้วต่างกัน ถ้ามีใครบอกว่ามนุษย์ทุกคนเหมือน ๆ กันทั้งนั้น ก็ช่างหัวพวกเขา! พวกเราต่างกัน และนั่นคือสิ่งที่นิยามคุณค่าของพวกเราไม่เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต่างอะไรจากสำเนาเลียนแบบ แนวคิดการออกแบบในครั้งนี้มาจากพื้นฐานที่ว่าพวกเราทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ด้วยกันทั้งนั้น”
นอกเหนือจากฉากหลังของ Gaetano Pesce ครีเอทีฟไดเรกเตอร์อย่าง Matthieu Blazy ยังคงยังคงเดินหน้ารังสรรค์ผลงานอย่างแน่วแน่ด้วยรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์และความหลากหลายในช่วงอายุโดยมีรากฐาน มาจากคอลเล็กชั่นเปิดตัวในฤดูกาลก่อน
เรื่องราวของตัวตนกับการแต่งกายคือสิ่งที่ได้รับการนิยามโดยทั้งผู้รังสรรค์และผู้สวมใส่ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่เปี่ยมไปด้วย ท่วงทำนองแห่งการเคลื่อนไหวและความรู้สึกผลลัพธ์จะอยู่ในความสมดุลของสิ่งที่สัมผัสได้จากภายในมากกว่าสิ่งที่ปรากฎต่อสายตาตามแบบฉบับของความเงียบอันทรงพลังหรือ quiet power แห่งความพอใจส่วนตัว ดังเช่นความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยที่เคียงคู่กันแทรกซึมสู่ชีวิตประจำวันด้วยวัสดุและเทคนิคการรังสรรค์ที่เฉียบคมอันเป็นฝีไม้ลายมือเอกลักษณ์ดั้งเดิมเฉพาะของห้องเสื้อของช่างฝีมือในอิตาลี ด้วยฟังก์ชันการใช้งานและลูกเล่น เครื่องแต่งกายคลาสสิกที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้จึงเหมาะกับตัวตนที่หลากหลาย จากความแตกต่างและหลุดจากแนวคิดนอกกรอบประเพณีนิยมและจากความแปลกตาสู่ความเรียบง่ายผ่านการเคลื่อนไหว แรงผลักดัน ความเย้ายวน และชีวิต: ตัวตนนี้ได้เดินทางมาถึงจุดใดแล้วและจะมีทิศทางต่อไปเช่นไร? ไม่ว่าอย่างไร ตัวตนนี้จะยังคงเดินหน้าต่อไป และการเดินทางในฤดูกาลนี้นั้นยอดเยี่ยมกว่าครั้งไหน ๆ
แปลงโฉมจากสาวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และน่าหลงใหลตามแบบฉบับอิตาเลียนในชุดตารางลายหมากรุก (plaid) และกางเกงผ้าชิโน (chinos) (ชูการพิมพ์ลายนูบัคอย่างวิจิตร) ผู้มาพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างที่โฉบเฉี่ยวพร้อมเฉิดฉาย (การตีความเทคนิคการสาน Intreccio ตามความหมายดั้งเดิมคือการทอถักแห่งความแตกต่างและหลุดจากกรอบเกณฑ์เดิม ซึ่งไหลเวียนอยู่ในบริบทที่แปรเปลี่ยนไป) สู่สาวในชุดเฟอร์ขนสัตว์ (เป็นอีกครั้งที่ใช้เทคนิคการพิมพ์ลาย ในครั้งนี้เป็นการพิมพ์ลายสุนัขจิ้งจอกลงบนหนังแกะ);จากนั้นไปสู่เหล่าสุภาพบุรุษและสตรีที่สวมใส่สูทลายทางสะท้อนโครง สร้างที่ชัดเจนและเคยเห็นมาก่อน(แรงบันดาลใจจากจิตกรและประติมากรอย่างบ็อชชิโอนี (Boccioni) ได้รับการนำมาปรับปรุงให้พลิ้วไหวและหรูหรามากยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคการถักทอเป็นปม ซึ่งพบได้ในรองเท้าเช่นกัน); ไปจนถึงสุภาพบุรุษและสตรีผู้มาพร้อมกับแนวคิดนอกกรอบประเพณีนิยมอีกรูปแบบหนึ่ง (แนวคิด neo-noir ยุคเปลี่ยนถ่ายหรือราวยุค 70 จากอดีตแห่งอนาคตเผยโฉมผ่านเสื้อคอกรวย (funnel neck) ที่นุ่มนวลและส่วนข้อมืออันละเมียดละไม พร้อมโครงสร้างแบบ Volcano) ถักทอด้วยความสดใหม่และความใส่ใจเพื่อให้ได้มาซึ่งความบางเบา ความแน่น ลายทอและเนื้อผ้าพิเศษสำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสตรีผ่านการถักทอเส้นใยเนื้อผ้าเป็นอย่างดีดั่งผ้าบูเคล (boucle) รูปแบบใหม่ การใช้ด้ายมูลิเน่ (mouliné) หลากสีสันขัดกัน รวมไปถึงเทคนิคการทอและการตัดเย็บขั้นสูง ‘high sewing’ ประหนึ่งการรังสรรค์ลวดลายดอกไม้บนชุดราตรี ‘Chandelier’ สมัยยุคกลางศตรวรรษ ชั้นเชิงการเย็บปักอันแยบยลในเนื้อผ้าฝ้ายเครป (cotton crepe) บนผ้าไนลอนสมัยใหม่คือการมัดรวมให้อดีตและอนาคตเป็นหนึ่ง ความแตกต่างของประวัติศาสตร์ได้เผยอยู่ในผ้าแจ็คการ์ด (Jacquards) ราวกับรูปแบบลวดลายฟิวเจอร์ริสม์ (Futurist) ที่แนบเนียน เสื้อผ้าแต่ละชุดได้รับการถักทอและตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยมือ ทำให้ความแตกต่างและเอกลักษณ์เป็นที่ประจักษ์ เป็นการผสมผสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตผ่านงานฝีมืออย่างลงตัว
แนวคิดเรื่องการเดินทางและการแสวงหาทางอารมณ์ได้รับการส่งเสริมด้วยดนตรีประกอบการแสดงที่ประพันธ์โดย Afrodeutsche ขึ้นมาเป็นพิเศษ การแสดงออกของปัจเจกบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญและอาจเป็นสิ่งที่นิยามจุดยืนที่แท้จริงของ Bottega Veneta ซึ่งนั้นก็คือในชีวิตของเราที่ได้ลงทุนในวัตถุที่มีค่าทางจิตใจ และมีความหมายในทุกโอกาส
“เมื่อเปรียบเทียบความเป็นแบบฉบับดั้งเดิมกับผู้คนผ่านเสื้อผ้าและตัวตนผมอยากออกแบบเครื่องแต่งกายที่ไม่ได้เหมาะแค่กับผู้ชายหรือผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เหมาะกับผู้ชายและผู้หญิงทุกคน เป็นการเดินทางจากชุดที่สวมใส่ได้ทุกวันที่เลือกใช้วัสดุอย่างหนังนูบัค (Nubuck) ไปเป็นความเย้ายวนน่าค้นหาด้วยการตัดเย็บ จากผลงานการออกแบบฉบับเสรีชนในสมัยอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่สู่การเป็นของที่ระลึกให้กับนักเดินทางผู้มากประสบการณ์… โลกทั้งใบภายในห้องขนาดย่อม” Matthieu Blazy กล่าว