รัฐนาฏกรรม…เน้นสร้างภาพมากกว่าแก้ปัญหาจริง?

ครั้งสุดท้ายที่คุณดูข่าวการเมืองแล้วรู้สึกเหมือนกำลังดูละครคือเมื่อไหร่? ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายในสภาที่ดุเดือด การออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ หรือการเคลื่อนไหวของนักการเมืองในช่วงหาเสียง เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มักมีบทพูดที่ดูเหมือนถูกเขียนขึ้นมาอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อสร้างอารมณ์และผลกระทบต่อผู้ชม

ลองนึกภาพดูสิ ตอนที่เราเห็นนักการเมืองคนหนึ่งขึ้นเวที โบกมือให้ผู้สนับสนุน พูดคำสัญญาที่จับใจ ทำให้นึกถึงตัวละครที่มีบทบาทชัดเจนบนเวทีละคร เรื่องนี้คงไม่ต่างจากประสบการณ์ของเราที่เคยไปดูละครเวทีหรือภาพยนตร์เรื่องโปรดเลยสักนิดใช่ไหม? แต่ต่างกันตรงที่เวทีนี้มีผลกระทบต่อชีวิตจริงของเรามากกว่าแค่เรื่องราวที่จบลงเมื่อม่านปิด

ทำไมเราถึงรู้สึกว่าการเมืองกลายเป็นละคร? เราต้องการอะไรจากการเมืองจริงๆ? ลึกๆ แล้วเราอาจต้องการความโปร่งใส ความจริงใจ และการกระทำที่ไม่ใช่เพียงการแสดงให้ดูดี แต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ แต่ในหลายครั้ง เรากลับได้เห็นเพียงการจัดฉากที่ดูสวยงาม แต่ไม่มีเนื้อหาที่แท้จริง

ถ้าเรามองให้ลึกลงไป เราจะเห็นว่าการเมืองไม่ใช่แค่เรื่องของการแสดงหรือการสร้างภาพ แต่เป็นเรื่องของการต่อสู้ทางความคิด การพยายามโน้มน้าวใจผู้คน และการต่อรองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ในขณะที่ละครมีจุดจบที่ชัดเจน การเมืองกลับไม่มีสิ้นสุด และทุกการกระทำบนเวทีการเมืองมีผลต่อเราโดยตรง

คำถามที่น่าคิดคือ ในฐานะผู้ชมการเมือง เราเป็นเพียงผู้ถูกกระทำหรือเปล่า? เรามีบทบาทแค่ไหนในเวทีนี้? หรือเราสามารถเปลี่ยนแปลงบทที่กำลังถูกแสดงอยู่ได้หรือไม่? บางทีการตั้งคำถามนี้อาจทำให้เรามองเห็นว่าการเมืองไม่ใช่แค่ละครที่เราดูอยู่ห่างๆ แต่เป็นเรื่องที่เราสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างแท้จริง

และคุณล่ะ คิดอย่างไรกับบทละครการเมืองที่กำลังแสดงอยู่?


หมายเหตุ

คำว่า "รัฐนาฏกรรม" (Political Theatre หรือ Political Drama) คือการเปรียบเทียบกิจกรรมทางการเมืองกับการแสดงละคร นักการเมืองแสดงบทบาทบนเวทีการเมืองเพื่อสร้างภาพลักษณ์หรือโน้มน้าวประชาชน โดยมีการจัดฉาก คำพูด และท่าทางเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง คำนี้มักใช้วิพากษ์การเมืองที่เน้นสร้างภาพมากกว่าการแก้ปัญหาจริง


Previous
Previous

จึ้งรักนายอินโทรเวิร์ต

Next
Next

มองเทรนด์แฟชั่นผ่านซีรีย์ Emily in Paris ซีซั่น 4