เสียงจริง เสื่อมจริง คลิปนายกฯ แพทองธาร กับฮุน เซน จุดเปลี่ยนที่สั่นคลอนรัฐบาล 2025

“เสียงบางเสียง แม้ไม่ตั้งใจให้คนฟัง — แต่เมื่อมันดังขึ้นมาแล้ว มันเปลี่ยนทั้งโครงสร้างประเทศได้”

เสียงของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหารไทย หลุดออกมาผ่านคลิปยาวเกือบ 9 นาที ฟังเผินๆ เหมือนบทสนทนากึ่งกันเอง แต่ถ้าคุณฟังให้ลึกกว่านั้น — คุณจะรู้ว่านี่คือ ไฟ ที่กำลังไหม้เสถียรภาพทั้งระบบและเมื่อ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ออกมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ใช่ค่ะ คลิปนั้นเป็นการพูดคุยจริง”
สิ่งที่หลุดออกมาไม่ใช่แค่เสียง... แต่มันคือ ความชอบธรรม ของรัฐบาลชุดนี้

ความลับที่หลุด แต่ใครรับผิด?

บทสนทนานี้เกิดขึ้นระหว่างนายกฯไทย กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาผู้ยังทรงอิทธิพล และถูกอัดเสียงไว้ยาว 17 นาที
ฮุน เซน ยอมรับว่าเขาเป็นผู้บันทึกเสียงเอง และแชร์ให้เจ้าหน้าที่กัมพูชาเกือบ 80 คน “เพื่อความโปร่งใส” — ในขณะที่ฝั่งไทย... ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครอธิบาย และไม่มีใครรับผิด ความเงียบที่อธิบายไม่ชัดของฝ่ายไทย ไม่ได้ทำให้เรื่องจบ ตรงกันข้าม มันทำให้สังคมเริ่มตั้งคำถามว่า

“ประเทศนี้ยังมีใครรู้จริงว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่หรือเปล่า?”

คลื่นแรกที่กระแทกเข้ามา: พันธมิตรถอนตัว

แค่ไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังคลิปแพร่ พรรคร่วมรัฐบาลอย่าง ภูมิใจไทย ก็ขอถอนตัวทันที เหตุผลไม่ใช่แค่ว่าพวกเขาไม่พอใจเนื้อหาในคลิป — แต่เพราะ คลิปนี้สะท้อนว่ารัฐบาลไทยอ่อนแอเกินจะปกป้องศักดิ์ศรีชาติ

เสียงถอนตัวครั้งนี้... หนักไม่แพ้คลิปที่หลุดเพราะมันตอกย้ำว่ารัฐบาลกำลังถูก บั่นทอนจากภายใน — ไม่ใช่แค่จากฝ่ายค้าน แต่จากคนในเอง

ลาออก? หรือ ยุบสภา?

ในระบบประชาธิปไตยจริงๆ ผู้นำที่มีคลิปเสียงพูดคุยลับกับต่างชาติหลุดออกมา โดยไม่มีหลักฐานว่าเป็นการสื่อสารทางการทูตตามระบบปกติ ควรลาออกภายใน 24 ชั่วโมง

แต่เมืองไทยไม่ใช่ที่แบบนั้น เรามีผู้นำที่ยังอยู่ และสื่อบางสำนักที่พยายามเบี่ยงประเด็น เหมือนจะบอกเราว่า “คลิปก็คลิปไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก” ซึ่งมันอันตรายมาก เพราะมันกำลังสื่อว่า “ต่อให้มีหลักฐานชัดแค่ไหน เราก็ยังไม่ขยับ”

ในเมื่อการลาออกไม่เกิดขึ้น คำถามต่อไปคือ

“แล้วต้องรอให้ถึงจุดไหน? รัฐประหารอีกครั้งเหรอ?”

อย่าลืมว่าไทยคือประเทศที่เคยปิดจ๊อบแบบนี้ด้วยรถถังมาแล้ว

ถ้าเรามองประวัติศาสตร์ 30 ปีที่ผ่านมา — ทุกครั้งที่ผู้นำไม่ยอมรับความผิดพลาด ไม่กล้าพูดความจริง ไม่ถอยเพื่อเปิดทางให้คนใหม่ ระบบจะหาคนถอยแทนให้คุณเอง บางครั้งเป็นพันธมิตร บางครั้งเป็นกองทัพ บางครั้งคือประชาชนที่หมดความอดทน และถ้าเราไม่เรียนรู้จากอดีต — คลิป 9 นาทีอาจเป็นแค่ฉากแรกของเรื่องที่จบลงด้วยวิธีเดิมๆ อีกครั้ง

ความจริงอาจหลุด แต่ความไว้ใจไม่ควรหลุดตาม

คลิปหลุดมันเป็นเรื่องของเทคโนโลยี แต่การ “ไม่รับผิด” คือเรื่องของทัศนคติ ไม่ว่าผู้นำคนไหนจะมาจากพรรคไหน มาจากตระกูลไหน ถ้าไม่สามารถ บริหารความไว้ใจ ของประชาชนได้ — ต่อให้มีเสียงในสภา ก็ไม่มีเสียงในใจประชาชนเพราะสุดท้าย สิ่งที่เราต้องการจากผู้นำไม่ใช่เพียงคำตอบ แต่คือ การกล้ายืนอยู่ในความผิดพลาดของตัวเอง

“ถ้าคุณเป็นผู้นำประเทศ คุณจะยังกล้าอยู่ต่อไหม?”
เพราะเราในฐานะประชาชน — เรากำลังฟังอยู่ และครั้งนี้ เราไม่ได้ลืมง่ายๆ

แต่ถึงอย่างนั้น เราต้องพูดให้ชัด

ถึงคุณจะไม่ชอบการบริหารชุดนี้ ไม่ชอบตัวนายกฯ ไม่เชื่อในเจตนา — อย่าหลงทางไปเรียกร้องรัฐประหาร รัฐประหารไม่เคยคืนศักดิ์ศรีให้ประชาชน มันแค่ยึดเวลาประเทศนี้ไปอีกหนึ่งฉากและในทุกครั้งที่รถถังแล่นออกมา — เรากลับต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อกู้ประชาธิปไตยกลับคืน ดังนั้นถ้าคุณโกรธ ไม่พอใจ หรือหมดศรัทธา จงเรียกร้องสิ่งที่เราควรได้ตั้งแต่ต้น

“ประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่อยู่ในมือเรา ไม่ใช่ในมือใคร”


Previous
Previous

ทำไมเราควรฝึกคิดเชิงระบบ (System Thinking)

Next
Next

หน้าเรียบใจยังเฟียสโบท็อกซ์ไม่ใช่แค่สวยแต่คือความมั่น