VIBE ISSUE : ยังดี…ที่ยังมีความรู้สึก
กำแพงที่สร้างขึ้นเป็นเกราะกำบังความรู้สึกต่างๆ ภายในใจที่มีต่อสิ่งต่างๆ หลังจากที่เผชิญเรื่องผิดหวังและเลวร้ายมา ยิ่งผ่านวันเวลามันยิ่งก่อตัวหนาขึ้นๆ จนบางครั้งผู้เขียนแทบไม่รู้สึกใดๆ ต่อเหตุการณ์ใดใดรอบตัว จนอดเคลือบแคลงตัวเองไม่ได้ว่าตอนนี้เรายังเป็นคนที่มีความรู้สึก หรือไร้ความรู้สึกไปแล้ว
แต่ตอนตีห้าของวันที่ 25 กุุมภาพันธ์ที่ผ่านมาผู้เขียนตื่นนอนขึ้นก็เช็คฟีดในทวิตเตอร์ตามปกติ ก็มีคนโพสว่า แตงโม - ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีรพงษ์ พลัดตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา วูบแรกที่อ่าน คือ งง แล้วก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นข่าวจริง จนเริ่มไล่หาข้อมูลแล้วพบว่าเธอพลัดตกน้ำจริงๆ
หลังจากที่ทราบความจริงก็เริ่มติดตามข่าว และเอาใจช่วยในการค้นหาเธอ ผู้เขียนรีเฟรชทวิตเตอร์และเพจข่าวที่มีไลฟ์แทบทุก 15 นาที เพื่อติดตามข่าวการค้นหาครั้งนี้ ใจก็หวังว่ามันจะเป็นเหมือนฉากในละครเมโรดราม่าที่ตกน้ำแล้วไปเกยฝั่งอยู่สักที่หนึ่ง แต่เปล่าเลยเพราะเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวไลฟ์ว่าทางทีมกู้ภัยได้พบร่างของเธอจากในแม่น้ำแล้ว เหตุการณ์นี้มันไม่ใช่ละครแต่มันคือ ชีวิตจริง ที่ไม่มีทั้งปาฏิหารย์ หรือเหตุบังเอิญใดใด
พอทราบข่าวน้ำตามันก็รื้อขึ้นมาพร้อมใจที่สับสน ผู้เขียนทบทวนความรู้สึกของตนเองว่าทำไมถึงรู้สึกผูกพันกับเธอ นั่นอาจเป็นเพราะวัยที่ไม่ต่างกันมาก เหมือนเราเติบโตมาพร้อมๆ กัน ผู้เขียนได้รับรู้เรื่องราวของเธอมาในทุกแง่มุม ได้ดูรายการที่เธอออกอยู่เสมอๆ ทั้งได้เห็นเธอตั้งแต่วัยสดใส จนเธอก้าวไปเป็นหนึ่งในนางแบบบนปกนิตยสารมากมาย ตลอดจนการก้าวเป็นผู้หญิงที่สุดเซ็กซี่ในยุคเฟื่องฟูของสิ่งพิมพ์
มรสุมในชีวิตเธอโหมพัดเข้ามาเป็นระลอกๆ แต่ละครั้งก็หนักหนาไม่เบา แต่เธอก็เป็นนักแสดงสาวแกร่งคนหนึ่งที่ก้าวฝ่ามรสุมมาได้ทุกครั้ง จวบจนเธอหายหน้าไปพักใหญ่เพราะถูกแบนจากสื่อหลายๆ สิ่งที่เธอเผชิญทำให้เธอกลายเป็นโรคซึมเศร้า ผู้เขียนจึงได้เคยส่งข้อความไปให้กำลังใจเธอ จากนั้นเธอก็รักษาตัวจนอาการดีขึ้นแล้วกลับมายืนในวงการบันเทิงอย่างงดงามอีกครั้ง ด้วยมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไปเข้าใจโลกมากขึ้น แต่ทว่าก็ยังไม่วายโดนสื่อมาเฟียค่อนแคะว่าชีวิตตกต่ำจนต้องไปขายของเก่ากิน การพาดข่าวนี้ทำให้ผู้เขียนที่อยู่ในฐานะสื่อคนหนึ่งรู้สึกว่า ทำไมต้องพาดหัวข่าวได้อย่างไร้จรรยาบรรณเช่นนี้
อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าผู้เขียนเป็นแฟนคลับตัวยงของเธอแต่เปล่าเลย ผู้เขียนแค่เป็นผู้ติดตามผลงานของเธอมากกว่า แต่ครั้นเมื่อเธอเสียชีวิตได้มีสำนักข่าวทำลิสต์ผลงานของเธอออกมาให้อ่าน แน่นอนว่าผลงานเหล่านั้นได้ผ่านตาแทบทั้งสิ้น เธอเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตโดยที่ผู้เขียนไม่รู้ตัว เนื่องจากไม่เคยสปอตไลท์ไปที่เธอมาก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทำไมเมื่อเธอจากไปจึงรู้สึกหวั่นไหว ใจหวิวเหมือนบางสิ่งในชีวิตหายไป ถ้าเปรียบให้เห็นภาพก็เหมือน สมาชิกในครอบครัวใหญ่ ที่เวลาอยู่ด้วยกันก็อาจหมั่นไส้กัน ทะเลาะกัน ไม่ได้แสดงความรู้สึกดีๆ ต่อกันมากมาย แต่เมื่อลาจากถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว 'รักเขาและผูกพันเหลือเกิน’
ตลอดหลายวันที่ผ่านมาจวบจนถึง ณ ขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ ผู้เขียนค่อนข้างเสียสมาธิในการเขียนบทความ และการนำเสนอข่าวสาร นั้นเพราะคดีของแตงโมยังไม่ปิดสำนวน โดยผู้เขียนก็ยังติดตามข่าวของเธอโดยหวังว่า คดีอันน่าสลดใจนี้จะถูกปิดลงในอีกไม่นานอย่างยุติธรรมต่อผู้วายชนม์
สำหรับบทความนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนเพื่อรำลึกถึง ‘แตงโม - ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีรพงษ์’ ด้วยใจจริงเพื่อเตือนใจให้นึกถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อเธอ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซื้งต่อครอบครัวของเธอเช่นกัน
วันนี้วงการบันเทิงต้องสูญเสียนักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทยไปอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นบทเรียนให้ผู้เขียนเหมือนกันว่า แท้จริงชีวิตคนเรานั้นเปราะบาง หากจะแสดงความชอบ ความรัก หรือทำดีต่อกันถ้ามีโอกาสก็ทำเสียเถิด อย่าบอกรักหรือชอบใครในวันที่เขาไม่มีโอกาสรับรู้ ซึ่งนั้นมันคือคำตอบที่ตอบตัวเองได้ว่า ชีวิตฉัน…ยังดีที่ยังมีความรู้สึก
COVER NEWS (ข่าวจากปก) เดือนมีนาคม 2565 ทาง พัฟ. เลือกนำเสนอข่าว VERSACE Eyewear ตั้งใจนำเสนอข่าวนี้เพราะ นายแบบหน้าหนุ่ม COLE SPROUSE ดาวรุ่งดวงใหม่ชาวอเมริกันที่เป็นพี่ชายฝาแฝดของ Dylan Sprouse โดยเขาได้มาร่วมแคมเปญโฆษณากับแบรนด์ VERSACE ที่นำเสนอภาพลักษณ์ของแว่นตาของแบรนด์ได้มีชีวิตชีวา มีความขี้เล่น น่ารักและมีเสน่ห์ล้นเหลือ
ผู้เขียนต้องขออภัยที่ปิดเล่มของ LOVE ISSUE ล่าช้าจึงทำให้ต้นฉบับ VIBE ISSUE ของเดือนมีนาคมต้องเลื่อนเวลาตีพิมพ์ออนไลน์ผิดเวลาไปจากเดิม