ทำไมเหมารวมว่าคน Gen Z ทำงานไม่ทน?
เราเป็น Gen Z ก็ได้ยินบ่อย ๆ ว่าคนรุ่นเราทำงานไม่ทน เปลี่ยนงานบ่อย ขาดความอดทน ทำงานเดี๋ยวก็ลาออก ทำให้เกิดคำถามว่า…จริงหรือ?
การเหมารวมนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในทุกยุคสมัย มักจะมีการกล่าวโทษคนรุ่นใหม่เสมอ ย้อนกลับไปสมัย Gen X ก็ถูกมองว่าขี้เกียจ ส่วน Gen Y ก็เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่เอาการเอางาน และมองไม่ไกลในอนาคต แล้ว Gen Z จะเหลือเหรอล่ะ? เพราะอะไรถึงตกเป็นเป้าโจมตีนะ?
ถ้าจะถามว่าจริงไหมที่คน Gen Z ทำงานไม่ทน คำตอบคือ…ไม่ใช่ทั้งหมด แต่เรามีเหตุผลของเรา
Gen Z เติบโตมาในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรารับข้อมูลข่าวสารมากมาย รู้ว่าโลกนี้มีอะไรมากกว่าแค่โต๊ะทำงาน เรามองเห็นโอกาสที่อยู่ไกลกว่ากรอบเดิม ๆ ของการทำงาน 9-to-5 แบบสมัยก่อน ที่สำคัญ เราเห็นว่าความสุขในชีวิตคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เราเห็นโลกที่การทำงานไม่มีเส้นทางที่ชัดเจนอีกต่อไป ในขณะที่คนรุ่นก่อนอาจตั้งเป้าทำงานที่เดิมจนเกษียณ คน Gen Z คิดต่างออกไป การเลือกเปลี่ยนงานไม่ได้หมายความว่าเราขาดความอดทน แต่เพราะเราต้องการหาความหมายในสิ่งที่ทำ
ทำไมการเปลี่ยนงานถึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการไม่ทน? ทำไมการค้นหาสิ่งที่ดีขึ้นถึงถูกมองว่าเป็นการขาดความอดทน? การพยายามหางานที่ตอบโจทย์ทั้งชีวิตและการทำงานนั้นผิดตรงไหน? หรือเป็นเพียงเพราะกรอบความคิดเก่าที่คนรุ่นก่อนคาดหวัง?
สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยจาก Harvard Business Review พบว่า คนรุ่น Gen Z จริง ๆ แล้วมีความสามารถในการปรับตัวสูงที่สุดในทุกเจน นี่แสดงให้เห็นว่า การปรับเปลี่ยนงานอาจไม่ได้หมายถึงการขาดความอดทน แต่เป็นการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างรวดเร็ว
เราอาจจะเป็นรุ่นที่เปลี่ยนงานบ่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าเราทำงานไม่ทน แทนที่จะถามว่าทำไม Gen Z ถึงเปลี่ยนงานบ่อย เราควรถามว่า โลกปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไรที่ทำให้คนรุ่นใหม่ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา?
ในที่สุดแล้ว สิ่งที่เราแสวงหาคือการทำงานที่เติมเต็มชีวิต ไม่ใช่แค่เพื่อเงินเดือน ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียง แต่เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและความหมาย คน Gen Z อาจจะไม่ทนกับสิ่งที่ไร้ความหมาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราทำงานไม่ทน เธอว่าจริงไหม?