‘ผ่าตัดยกหน้าชั้นลึก’ ย้อนอ่อนเยาว์
ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าตัดสินใจให้ใบหน้าตัวเองอยู่บนเขียงศัลยกรรม แต่ใครที่ตัดสินใจ “ผ่าตัดยกหน้า” โดยเฉพาะ เทคนิคชั้นลึก (Deep Plane Facelift) ย่อมต้องการบางอย่างที่มากกว่าผิวที่เต่งตึง… อาจเป็นการคืนความมั่นใจ คืนรอยยิ้ม หรือแม้กระทั่งคืนความรู้สึกว่า “ฉันยังเป็นฉันคนเดิม”
Deep Plane Facelift คือเทคนิคที่แพทย์ศัลยกรรมตกแต่งระดับสูงเลือกใช้เมื่อต้องการ “ยกทั้งใบหน้าแบบจริงจัง” โดยไม่ใช่แค่ยกผิวชั้นนอก แต่วางมือเข้าไปถึง ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นโครงสร้างใต้ผิวที่มีผลต่อรูปหน้าโดยตรง ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็ง ไม่ตึง และไม่หลอกตา
แต่คำถามที่ผู้หญิง (และผู้ชาย) หลายคนยังไม่กล้าถามออกมาตรง ๆ คือ…
“แล้วมันจะอยู่ได้นานแค่ไหน?”
“จะกลับมาหย่อนคล้อยอีกไหม?”
คำตอบคือ ใช่ — โอกาสหย่อนคล้อย “ยังมีอยู่” แม้คุณจะทุ่มทุนเลือกวิธีที่ดีที่สุด เพราะ การผ่าตัดยกหน้าไม่ได้หยุดเวลา... มันแค่หมุนเข็มนาฬิกากลับให้คุณเริ่มต้นใหม่ ในเวอร์ชันที่สดใสขึ้น เต่งตึงขึ้น และมั่นใจขึ้น
ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ผลลัพธ์ของ Deep Plane Facelift โดยเฉลี่ย อยู่ได้นาน 10–15 ปี หากคุณดูแลตัวเองดีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีรายงานบางกรณีที่ผลเริ่มคลายตัวในช่วง 2–3 ปีแรก หากโครงสร้างผิวเดิมอ่อนแรง หรือมีพฤติกรรมที่เร่งความเสื่อมของผิว เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย หรือไม่ทาครีมกันแดด เพราะถึงแม้จะ “ยกชั้นลึก” แล้ว แต่แรงโน้มถ่วงยังคงทำงานทุกวินาที
การยกหน้า ไม่ใช่การหนีความแก่ แต่คือการสร้างทางเลือกใหม่ให้ตัวเองได้มองกระจกแล้วรู้สึกว่า “เรายังมีสิทธิ์กลับมาสวยได้” โดยไม่ต้องแคร์ว่าตอนนี้อายุเท่าไหร่ และถ้าถามว่า “จะต้องผ่าตัดใหม่อีกไหมในอนาคต?”
คำตอบคือไม่จำเป็น... หากคุณให้ผิวได้หายใจดี ๆ หมั่นบำรุง เติมคอลลาเจนจากภายใน และใช้เทคโนโลยีไม่ผ่าตัด (เช่น HIFU, Ultherapy หรือ Botox) มาคอยยืดอายุผลลัพธ์
ความอ่อนเยาว์ ไม่ได้อยู่ที่ผิวอย่างเดียว แต่มันอยู่ที่การยอมให้ตัวเองเปล่งประกาย โดยไม่รู้สึกผิด คุณอาจไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟังว่าทำไมถึงยอมเจ็บ ยอมบวม หรือยอมใช้เวลาฟื้นฟู เพราะบางครั้ง การตัดสินใจ “ยกหน้า” ก็ไม่ได้เกี่ยวกับรูปลักษณ์อย่างเดียว แต่มันคือการ “ยกตัวเอง” ให้กลับมาอยู่ในจุดที่มั่นใจและรักตัวเองได้อีกครั้ง — ในแบบที่คุณอยากเป็น
