Puff.

View Original

GIVE ISSUE : ให้ รับ แลกเปลี่ยน…ความจริงที่แสนเจ็บปวด

เดือนธันวาคมของทุกปี ผู้เขียนมักจะหวนมองย้อนกลับไปต้นปีว่า ตลอดปีนี้ชีวิตเรามีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ซึ่งแน่นอนว่า ตั้งแต่ที่โรคระบาดโควิด-19 อุบัติขึ้น ชีวิตของเราราวกับถูกแช่แข็งกันเอาไว้โลกใบนี้ ทำให้เราตระหนัก ถึงชีวิตที่ว่า แน่นอน แท้จริงไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง เราต้องปรับตัวเองกันอย่างโกลาหลจากที่วันหนึ่ง เคยเป็นแต่ผู้ให้ วันนี้ก็กลับกลายเป็นผู้รับ แล้วก็ต้องกลายเป็นผู้แลกเปลี่ยน

หลายคนอาจเคยรู้จัก นักจิตวิทยาชื่อดัง อดัม แกรนต์ (Adam Grant) ที่เขาได้แบ่งคนไว้ 3 ประเภท ดังนี้

·         ผู้ให้ คนที่คิดถึงคนอื่นก่อน และชอบช่วยเหลือคนอื่นก่อน

·         ผู้รับ คนประเภทนี้คิดถึงแต่ประโยชน์ตัวเองก่อน

·         ผู้แลกเปลี่ยน คนที่พยายามสร้างสมดุลระหว่างการรับและการให้ พวกเขาจะช่วยเหลือคนก็หวังผลตอบแทน

ส่วนใหญ่คนมักนำเอาทฤษฎีนี้ไปวิเคราะห์เรื่องความสำเร็จของการทำงาน แต่บทความนี้ขอนำทฤษฎีมาเปรียบเทียบกันอีกแบบ เพราะพอพูดถึงเรื่องนี้ ทำให้นึกไปถึงเรื่องของ การเป็น ผู้ให้ ผู้รับ ผู้แลกเปลี่ยน...ที่สุดแสนสะเทือนใจ เมื่อแรกเริ่มเดิมทีแล้ว เราต่างก็เริ่มต้นจากการเป็นผู้รับมาโดยตลอด โตขึ้นจึงถูกขัดเกลาให้รู้จักทั้งการเป็นผู้ให้และผู้รับ ถ้ายกตัวอย่างที่ไม่ไกลตัว ก็เรื่องของ ‘วันเกิด’ วันที่หลายคนต้องมาแสดงความยินดี นำของขวัญมาให้นะ  แล้วเมื่อถึงวันเกิดเขา เราก็ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ให้กลับเช่นกันจนเป็นประเพณี

ครั้นพอเติบโตเต็มวัยเข้าสู่สังคมการทำงาน มารยาทสังคม หรือ ภาษีสังคม นี่แหละทำให้ชีวิตการทำงานน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งนัก เพราะการเป็นผู้รับมาในรูปแบบซอง ที่บังคับกลายๆ ว่า ฉันต้องเป็นผู้ให้นะ ทั้งงานบวช งานศพ ป่วย งานแต่งงาน รวมไปถึงซองกระถิน ผ้าป่าอีกนะ ถ้าในเดือนนั้นๆ งานซ้อนมาหลายงาน เงินแถบไม่เหลือติดบัญชีด้วยซ้ำ การจ่ายภาษีสังคมเช่นนี้มีอัตราการจ่ายที่จะมากหรือจะน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่งในองค์กรที่ทำงานอยู่ด้วย บอกจากใจเลยว่า ไม่เคยเต็มใจใดใด ยกเว้นงานบุญที่เราอยากทำจริงๆ ซึ่งตอนนั้นก็ได้แต่หวังว่าถ้าเรามีงานบ้างเขาก็คงใส่ซองคืนมา

แต่ชีวิตการทำงานของผู้เขียน ไม่เคยเลยจะได้มี สังคมทำงานแบบเกื้อกูลใดๆ เพราะชีวิตทำให้ต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารบูมเมอร์มาตลอด ไม่เคยเลยที่จะได้คบหาเพื่อนฝูงวัยใกล้กัน พอเป็นอย่างนี้จึงทำให้ผู้เขียนกลายเป็นผู้ให้มาตลอดเช่นกัน อย่างบางที่เพิ่งเข้าไปทำงานแท้ ที่ทำงานก็ให้หารค่าเค้กวันเกิด ให้ตายสิ!!! พอวันเกิดฉันกลับไม่ได้อะไรเลยเพราะไม่มีใครรู้จักวันเกิดผู้เขียน แล้วก็ไม่คิดบอกใคร ยกเว้นเพื่อนสนิทจริงๆ ที่ชอบให้ของขวัญกันมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันก็ยังมอบของขวัญให้กันอยู่เรื่อย ๆ แต่ต้องคอยเตือนกัน ไม่ใช่เพราะอะไร แต่เพราะหลงลืมจากความชราเสียมากกว่า

ยิ่งพออายุมากขึ้น ก็ทำให้เราได้เห็นคนที่หลากหลาย บ้างก็ตีสนิทหวังให้เราช่วยเหลือ พอหมดผลประโยชน์พวกเขาก็ไป แต่ถ้าถามว่า ดูคนเหล่านั้นไม่ออกเหรอว่าเขาเข้ามาหวังอะไร ดูออกสิ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าสะดวกไม่ได้ลำบากมากก็จะทำให้ มันเลิกคาดหวังแล้วว่า ใครจะมารีแอคอย่างไรกับเรา ทุกวันนี้...นานวันผู้เขียนก็รู้สึกอยาก ‘รับ’ น้อยลง แต่ ‘ให้’ มากขึ้น แล้วถ้าจะต้อง ‘แลกเปลี่ยน’ ก็พูดกันตรงไปตรงมากัน ไม่ต้องมาพูดจาปะเหลาะแล้วหวังประโยชน์

ดังนั้นการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนทำให้รู้สึกว่า ชีวิตมีความสุขมากและเหนื่อยน้อยลงกว่าเมื่อก่อนเยอะ ทั้งรู้สึกว่าการเป็นผู้ให้มากกว่ารับ และแลกเปลี่ยนมันช่างอิ่มใจมากมาย ผู้อ่านทุกท่านครับจะปีใหม่แล้วนะ มาสร้างความสุขจากการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลอะไรอีกสักครั้ง แล้วคุณจะอิ่มใจมากกว่าทุกปี

พ. พยัคพันธุ์ 01/12/21


Cover News หรือ ข่าวจากปก ของเดือนธันวาคมนี้ ทาง พัฟ. เลือกข่าว VAN CLEEF & ARPELS ขึ้นปก โดยนำเสนอเครื่องประดับเพชรที่เจียระไนอย่างงดงาม อีกทั้งยังนำ ‘ดอกบัว’ สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ มารังสรรค์อย่างงดงามพิสุทธิ์ใสในคอลเล็กชั่นใหม่ พัฟ. หวังว่าข่าวนี้จะเพิ่มประกายระยิบระยับงดงามสดใสในการนับถอยหลัง ส่งท้ายปี 2564 เข้าสู่่ปี 2565

พัฟ. นิตยสารออนไลน์ ขอให้ทุกท่านมีความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นะครับ


ข่าวเด่น เดือนธันวาคม 2564