Puff.

View Original

Van Cleef & Arpels เปิดหนวิถีโคจรของดาราจักร

เพื่อสืบทอดมุมมองอันงดงามดุจบทกวีที่มีต่อชีวิต Van Cleef & Arpels นำมิติแห่งความงามอันโดดเด่นเป็นหนึ่งของตนมาสอดแทรกลงสู่ศิลปะของการผลิตนาฬิกาข้อมือเพื่อจุดประกายความฝัน และอารมณ์ บทบรรจบระหว่างประดิษฐกรรมอันเป็นเลิศ กับจินตนาการ ก่อกำเนิดผลงานสร้างสรรค์ที่พลิกแพลงความแม่นยำ และเที่ยงตรงของกลไกบอกเวลาให้กลายเป็นหนทางเชิญชวนล่วงสู่ดินแดนดุจเทพนิยาย, การผจญภัย และความสุข เบิกบานใจ 

เมซงอาศัยรกรากประวัติศาสตร์อันยาวนานของตนร่วมกับแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจอันถือเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวมาเรียงร้อยรจนาขึ้นเป็นงานออกแบบเพื่อเล่าเรื่องราวแห่งความรัก และโชคชะตา บนรากฐานมรดกอันบ่งบอกถึงความเป็น Van Cleef & Arpels เหล่านางฟ้า และนางระบำปลายเท้าล้วนย่างก้าวไปตามชั่วโมงที่เคลื่อนคล้อย ในขณะที่จังหวะแห่งธรรมชาติ ก็ดำเนินไปตามวัฏจักรวาล ผลงานเครื่องบอกเวลาแต่ละชิ้นจากคอลเลคชั่นต่างๆ หาได้ต่างอะไรจากจากเวทีรองรับความงามสง่า และเสน่ห์หรูหราน่าประทับใจ

Poetic Astronomy: บทกวีแห่งจักรวาล

ด้วยความประทับใจและหลงใหลในประกายแสงตระการตาของแดนสรวงกับมวลดารา Van Cleef & Arpels    ยกย่องมนตรามหัศจรรย์เหล่านี้ด้วยการออกแบบสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่น Poetic Astronomy™ หรือ “บทกวีแห่งจักรวาล” ผืนฟ้าราตรีประดับดาว, หมู่ดาราในจักรราศี, การเดินทางของดวงตะวัน และจันทรา, นาฏกรรมลีลาแห่งดาวเคราะห์ ทุกผลงานคือการหลอมรวมท่วงทำนองรจนาถึงความวิจิตรงดงามบนห้วงเวลา เข้ากับความประณีต พิถีพิถันของกลไกบอกเวลาอันแม่นยำ เพื่อจุดประกายความรู้สึก และก่อกำเนิดห้วงอารมณ์อันทรงเอกลักษณ์ในทันทีที่ได้ยล

ทุกคอลเลคชั่น คือผลพวงจากการระดมสุดยอดฝีมือของช่างทำนาฬิกา, ช่างทำเครื่องประดับอัญมณี และหัตถกร เพื่อหลอมรวมไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะความชำนาญต่างแขนงของพวกเขามาจำลองเวทีแห่งชีวิต นำพาเจ้าของสายตาที่ทอดมาชื่นชมความหรูหรา ละเมียดละไมให้ก้าวพ้นอาณาเขตของโลกแห่งความเป็นจริงไปสู่ดินแดนแห่งความฝัน และจินตนารมณ์โดยแท้

Midnight and Lady Arpels Zodiaque Lumineux
Precious constellations: หมู่ดาวรัตนชาติ

นาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่น Poetic Astronomy หรือ “บทกวีแห่งจักรวาล” เปิดหนทางให้เราได้ย่างก้าวไปตามวิถีโคจรของดาราจักรด้วยผลงานชุดใหม่อันประกอบขึ้นจากนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้หญิง Lady Arpels Zodiaque Lumineux ถึงสิบสองงานออกแบบตามหมู่ดาวจักรราศีเพื่อสมทบกับนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้ชายรุ่น Midnight Zodiaque Lumineux ซึ่งได้รับเปิดตัวเป็นครั้งแรกไปเมื่อครั้งงานจัดแสดงนาฬิกาโลก SIHH 2018 ผลงานสร้างสรรค์นาฬิกาข้อมือทั้งสิบสองแบบเหล่านี้ คือการจำลองประกายสุกสว่างของมวลดารากลางเวหนโดยอาศัยกลไก light-on-demand หรือ “ระบบสั่งงานแสงตามต้องการ” ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016 สำหรับใช้กับนาฬิกาข้อมือ Midnight Nuit Lumineuse ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะเมซง บัดนี้ถูกนำมาใช้เป็นกลไกจุดประกายแสงสว่างเรืองรองให้แก่สิบสองหมู่ดาวตามจักรราศีตะวันตก

งานออกแบบเชิงดาราจักร ถือเป็นหนึ่งในแนวทางอันเป็นที่รักยิ่งของเมซงมานับตั้งแต่มีการสรรค์สร้างบรรดาเหรียญนำโชคชุดแรกขึ้นระหว่างทศวรรษ 1950 และปัจจุบัน ก็ได้ถูกพลิกแพลงมาสู่ผลงานสำหรับประดับข้อมือผู้หญิงที่เปี่ยมรสนิยมผ่านประกายสุกสกาวพราวพร่างบนหน้าปัดถึงสิบสองแบบตามหมู่ดาวประจำราสีทั้งสิบสอง นั่นก็คือราศีเมษ (Aries), พฤษภ (Taurus), เมถุน (Gemini), กรกฎ (Cancer), สิงห์ (Leo), กันย์ (Virgo), ตุลย์ (Libra), พิจิก (Scorpio), ธนู (Sagittarius), มังกร (Capricorn), กุมภ์ (Aquarius) และมีน (Pisces)

นาฬิกาข้อมือ Midnight Zodiaque Lumineux (มิดไนท์ โซดิแอ็ค ลูมิเนอซ์) ประจำราศีต่างๆ

• ตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 42 มม. ทำจากทองคำขาวเช่นเดียวกับกรอบหน้าปัด

• พื้นหน้าปัดอาศัยงานลงยาสีน้ำเงินเนื้อแวววาวระยับแสงรองรับประติมากรรมทองคำขาวร่วมกับงานลงยาเคลือบสีภายในกรอบลายเส้นทองคำขาว ประดับลูกปัดลงยาโปร่งแสงสีฟ้า

• สายคาดนาฬิกาทำจากหนังจระเข้ดำ ตัวกลัดทรงหัวเข็มขัดพับได้ทำจากทองคำขาว

• กลไกขับเคลื่อนแบบไขลานในตัว (ขึ้นลานอัตโนมัติ) ประกอบระบบสั่งงานแสงตามต้องการ (light-on-demand modul)

ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Van Cleef & Arpels เท่านั้น

โดยมีแหล่งพลังงานสำรองก่อนนาฬิกาหยุดเดิน 40 ชั่วโมง

• มีหมายเลขกำกับรุ่น

Lady Arpels Zodiaque Lumineux

นาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพสตรี Lady Arpels Zodiaque Lumineux (เลดี อารเปลส์ โซดิแอ็ค ลูมิเนอซ์) ประจำราศีต่างๆ

• ตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 38 มม. และกรอบหน้าปัดทำจากทองคำขาวฝังเพชรเช่นเดียวกับเม็ดมะยมฝังเพชรเดี่ยว

• พื้นหน้าปัดอาศัยงานลงยาสีน้ำเงินเนื้อแวววาวระยับแสงรองรับงานจิตรกรรมลงยา ประดับลูกปัดลงยาโปร่งแสงสีฟ้า

รุ่นราศีสิงห์: ประติมากรรมนูนต่ำทองคำเหลืองฝังไพลินสีเหลือง, ไพลินสีน้ำเงิน, โกเมนสีส้มสเปซซาร์ไทท์, งานลงยาสีเหลืองฉาบทอง

รุ่นราศีพฤษภ: งานลงยาสีเขียวโปร่งแสงเดินเส้นทองคำขาวฝังไพลินสีน้ำเงินต่างดวงตา รองรับเขาวัวทองคำขาวฝังเพชร

รุ่นราศีพิจิก: ใช้ทองคำขาวต่างหางแมงป่องฝังเพชรร่วมกับงานลงยาโปร่งแสงสีม่วงอ่อนฉาบทอง

รุ่นราศีเมถุน: ประติมากรรมนูนต่ำคนคู่ทองคำขาวฝังเพชรร่วมกับงานลงยาทึบแสงสีฟ้าสด

• สายคาดนาฬิกาทำจากหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้ม ตัวกลัดทรงหัวเข็มขัดพับได้ทำจากทองคำขาวฝังเพชร

• กลไกขับเคลื่อนแบบไขลานในตัว (ขึ้นลานอัตโนมัติ) ประกอบระบบสั่งงานแสงตามต้องการ (light-on-demand modul)

ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Van Cleef & Arpels เท่านั้น

โดยมีแหล่งพลังงานสำรองก่อนนาฬิกาหยุดเดิน 40 ชั่วโมง

• มีหมายเลขกำกับรุ่น

ไหวพริบในการหลอมรวมทักษะ ความชำนาญต่างแขนง

 ประกายแสงเจิดจ้าสะกดสายตาของนาฬิกาข้อมือ Midnight Lumineux แบบต่างๆ ล้วนมีจุดกำเนิดเริ่มต้นมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า piezoelectricity อันหมายถึงกระแสไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นจากวัสดุเพียโซอิเล็กทริก (ส่วนใหญ่เป็นเซรามิกคุณสมบัติพิเศษชนิดหนึ่ง) ก่อแรงดันไฟฟ้าขึ้นได้เมื่อได้รับแรงกล หรือแรงสั่นสะเทือนจากการขับเคลื่อน จากนั้น วัสดุชนิดนี้ก็สามารถเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้ากลับไปเป็นพลังงานกล หรือแรงสั่นสะเทือนขับเคลื่อนได้เช่นกัน

วัสดุเพียโซอิเล็กทริกถูกค้นพบ และกลายเป็นกรณีศึกษาขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และ Van Cleef & Arpels ได้ดำเนินการพัฒนากลไกพิเศษ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ด้วยการนำเซรามิกเพียโซอิเล็กทริก (piezoceramic) นี้มาเจียนเป็นแผ่นบางดุจใบมีด ซึ่งเมื่อได้รับแรงสั่นจากการขับเคลื่อนของกลไกนาฬิกาข้อมือ แผ่นจานเซรามิกบางเฉียบนี้ก็จะเกิดการสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนนี้จะถูกคุณสมบัติของวัสดุแปรค่าให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้า ลำเลียงไปสู่หลอดไฟ LED สี่ ถึงหกหลอด ด้วยการกดปุ่มสั่งงาน  เท่านั้น แสงไฟจากทางด้านหลังก็จะส่องสว่างผ่านลูกปัดลงยาเนื้อโปร่งแสงที่ฝังอยู่บนแผงหน้าปัด ก่อประกายสว่างเรืองรองนานประมาณสามวินาที

หน้าปัดรุ่นต่างๆ ดุจมีชีวิตโลดแล่น จรัสประกายความงามประดับข้อมือขึ้นได้ก็ด้วยทักษะ ความสามารถเชิงเทคนิค ซึ่งถูกระดมมาใช้ตกแต่ง ประดับประดารายละเอียดท่ามกลางห้องผลิตงานแผนกต่างๆ ในโรงงานของ Van Cleef & Arpels ที่เขตเทศบางเมืองเมย์แร็ง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทองคำขาวถูกนำมาหล่อแบบ สลักเสลาอย่างวิจิตรบรรจงทีละชิ้นๆ สัญลักษณ์ประจำราศีต่างๆ บนนาฬิกาข้อมือบุรุษ โดดเด่นอยู่บนพื้นหน้าปัดลงยาไปแย็ต (pailleté : ลงยาเคลือบเงาแบบแผ่นเลื่อม) สีน้ำเงินเข้มจำลองแบบเฉดสีผืนฟ้ายามราตรี ส่วนนาฬิกาข้อมือสตรี สัญรูปประจำราศีต่างๆ เหล่านี้ล้วนตกแต่งด้วยทองคำขาว หรือทองคำสีเหลืองสุกสกาว ร่วมกับบรรดารัตสชาติเลอค่า และงานลงยา ความล้ำลึกของห้วงจักรวาล อาศัยลูกเล่นล้อแสงทอประกายของสีน้ำเงินเข้มเหลื่อมเฉด ร่วมกับงานลงยาเฉดต่างๆ อย่างสีเขียว เพื่อเป็นตัวแทนธาตุดิน, สีส้มคือธาตุไฟ และลีลาไล่ลำดับเฉดของสีฟ้า กับสีม่วงคือธาตุลมและน้ำ

ภายในแต่ละหมู่ดาว ต่างอาศัยลูกปัดลงยาอย่างอ่อนช้อย ละเมียดละไมตกแต่งเป็นตัวแทนตำแหน่งดาวจุดต่างๆ ซึ่งล้วนอาศัยงานฝีมือตะไบรูปทรงให้เกลี้ยงเกลา เช่นเดียวกับงานฝังลงบนแผงหน้าปัด ลูกปัดลงยาบางเม็ดอาศัยเทคนิคในการก่อแสงสว่างได้เหมือนดวงดาวอย่างสมจริง

A feminine vision of the cosmos: ความเป็นผู้หญิงที่ปรากฏในห้วงดาราจักร

เพื่อเติมเต็มความครบครันให้แก่คอลเลคชั่น Poetic Astronomy หรือ “บทกวีแห่งจักรวาล” Van Cleef & Arpels ได้หวนกลับไปนำผลงานรุ่นต้นแบบของนาฬิกาข้อมือ Midnight Planétarium™ มาดัดแปลงให้เป็นนาฬิกาข้อมือสำหรับผู้หญิงผ่านการผสานสุนทรียศิลป์สุดวิจิตรบรรจงเข้ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะเมซงเพื่อจำลองเวิ้งสุริยจักรวาลมาไว้บนหน้าปัดของนาฬิกา Lady Arpels Planétarium โดยมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางการโคจรของดาวเคราะห์ใกล้ชิดทั้งสาม อันประกอบไปด้วยดาวพุธ, ดาวศุกร์ และโลก พร้อมดาวบริวารคือดวงจันทร์ ดาวเคราะห์แต่ละดวงล้วนเคลื่อนตัวโคจรรอบดวงอาทิตย์บนหน้าปัดด้วยความเร็วจริงตามปรากฏการณ์ธรรมชาติ นั่นคือดาวพุธใช้เวลา 88 วัน, ดาวศุกร์ใช้เวลา 224 วัน และโลก ใช้เวลา 365 วัน สำหรับนวัตกรรมสำคัญที่นำมาใช้กับผลงานชิ้นนี้ก็คือดวงจันทร์เพชรเดี่ยวโคจรรอบโลกด้วยเวลา 29.5 วัน พร้อมกับทอประกายล้อแสงจรัสตาในทุกตำแหน่งใหม่ของแต่ละวัน

นาฬิกาข้อมือสำหรับสุภาพสตรี Lady Arpels Planétarium

• ตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 38 มม. และกรอบหน้าปัดทำจากทองคำขาวฝังเพชรเช่นเดียวกับเม็ดมะยมฝังเพชรเดี่ยว

• หน้าปัดแผ่นจานอาเวนทูรีนรองรับพระอาทิตย์ทองคำสีกุหลาบ, ดาวตกทองคำเคลือบโรเดียม, ดาวพุธแม่มุกสีชมพู, ดาวศุกร์ลงยาสีเขียว, ดาวเคราะห์โลกหินไข่นกการเวก และดวงจันทร์เพชรเดี่ยว

• ด้านหลังตัวเรือนทำจากทองคำขาวประกอบทองคำสีชมพูร่วมกับแผ่นพลอยอาเวนทูรีน, แก้วไพลิน, ติดตั้งปฏิทินและลูกตุ้มขึ้นลานทำจากทองคำขาวกับวัสดุพีวีดีสีดำ เสี้ยวจันทร์ทองคำขาวฝังเพชรเรียงแถวจิกไข่ปลาแบบพรมหิมะโอบล้อมลูกโลกหินไข่นกการเวก และใช้รัตนชาติต่างๆ แทนดาวเคราะห์ทั้งหลายในระบบสุริยจักรวาล

• กลไกขับเคลื่อนแบบไขลานในตัว  (ขึ้นลานอัตโนมัติ) โดยอาศัยระบบขับเคลื่อนสำหรับนาฬิกาข้อมือ Planétarium

ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Van Cleef & Arpels เท่านั้น

โดยมีแหล่งพลังงานสำรองก่อนนาฬิกาหยุดเดิน 40 ชั่วโมง

• มีหมายเลขกำกับรุ่น

การเลือกวัสดุต่างดาวเคราะห์ อันเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความเป็นผู้หญิงอย่างดาวศุกร์ กับดวงจันทร์ ได้รับการเติมเต็มด้วยงานปรับขนาดมิติตัวเรือนของเครื่องบอกเวลา เพื่อให้รองรับกับสรีระทางกายภาพของข้อมือสุภาพสตรี   ผู้สวมใส่อย่างละเมียดละไม ตัวเรือนเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 38 มม. ของ Lady Arpels ฝังเพชรเดินขอบข้าง และเต็มกรอบหน้าปัดรองรับการติดตั้งกลไกขับเคลื่อน ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่สำหรับใช้กับนาฬิกาข้อมือขนาดเล็กกว่าผลงานต้นแบบ โดยยังคงอาศัยระบบการสั่งงานรุ่นเอกสิทธิ์จากแนวคิดของคริสเตียอาง วาน เดอร์ คลอว์ (Christiaan van der Klaauw) ความวิจิตรตระการตาของจักรวาลนิรมิต ยังทวีความซับซ้อนนอกเหนือจากดาวเคราะห์ และดาวบริวารด้วยดาวหางทองคำเคลือบโรเดียม ซึ่งทำหน้าที่บอกเวลาระหว่างเคลื่อนตัวโคจรรอบกรอบหน้าปัด ในขณะเดียวกับที่ด้านหลังตัวเรือน ได้ประกอบช่องบอกวัน, เดือน และปีไว้สองตำแหน่งท่ามกลางการตกแต่งอย่างอ่อนช้อย สะกดสายตา

นาฬิการุ่นนี้ยังมาพร้อมสายคาดสองตัวเลือกให้สอดคล้องกับโอกาสการสวมใส่ใช้งาน นั่นคือสายคาดหนังจระเข้สีน้ำเงินเข้มเฉดเดียวกับโทนสีของหน้าปัด และสายคาดโลหะฝังเพชรล้วนกลมกลืนกับตัวเรือนเพื่อเติมเสน่ห์หรูหราของการเป็นเครื่องประดับชั้นสูง

Magic materials: มายาวัสดุ

เพื่อรังสรรค์ภวังค์จินตนาการอันบังเกิดขึ้น ในทุกครายามทอดสายตามองดูหมู่ดาราบนผืนนภาภพรัตติกาล      Van Cleef & Arpels อาศัยความประณีต พิถีพิถันเป็นพิเศษในการเลือกวัสดุ และกรรมวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากวัสดุเหล่านั้นให้ตรงตามขนบธรรมเนียมของงานเครื่องประดับอัญมณี และการผลิตนาฬิกาข้อมือ บรรดาดาวเคราะห์ต่างขนาด ซึ่งต้องเคลื่อนโคจรวนรอบดวงอาทิตย์ทองคำสีกุหลาบจรัสเปลวรัศมีอยู่กึ่งกลางหน้าปัด ประกอบไปด้วยแผ่นแม่มุกสีชมพูต่างดาวพุธ และหินไข่นกการเวกต่างดาวเคราะห์โลก ซึ่งทั้งสองล้วนใช้ความละเอียดละออเป็นอย่างยิ่งในการตัดเจียนรูปทรงให้กลมกลึง ส่วนลูกปัดลงยาที่ใช้เป็นดาวศุกร์นั้น คืองานฝีมือจากห้องปฏิบัติการลงยาของ Van Cleef & Arpels ในเมือเมย์แร็ง และประกายล้อแสงสุกสกาวของพราวพระจันทร์ที่ต้องโคจรรอบโลกนั้น โดดเด่นเป็นหนึ่งจากเพชรเดี่ยวเจียระไนเหลี่ยมเกสรให้ตัดกับจักรวาลสีน้ำเงินเข้มเฉดมิดไนท์บลู

ในการจำลองมิติล้ำลึกของห้วงจักรวาล พลอยเนื้อแข็งอาเวนทูรีน (aventurine) ได้รับการตัดเจียนจนบางเฉียบถึงเจ็ดแผ่นสำหรับนำมาติดตั้งเรียงซ้อนโดยศูนย์กลางเดียวกันอยู่บนหน้าปัดเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการหมุนรอบตัวเองเป็นเอกเทศแยกกัน แต่ละดำเนินการการขับเคลื่อนดาวเคราะห์, ดาวบริวาร และดาวหางที่ปรากฏให้เห็นบนหน้าปัดให้สามารถเคลื่อนโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้ในความเร็วตามจริงของปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ฝาประกบหลังตัวเรือน อาศัยบรรดาเฉดสีแบบเดียวกันกับแผงหน้าปัด ร่วมกับเหล่าเทหวัตถุ ซึ่งถูกจำลองด้วยวัสดุต่างๆ ให้มาปรากฏไล่เรียงตามลำดับกันอีกคราอยู่บนแผ่นจานหมุนอาเวนทูรีน ตรงศูนย์กลางแผ่นจานนี้ ลูกตุ้มขึ้นลานจะหมุนวนอย่างต่อเนื่อง ต่างวิถีโคจรของเสี้ยวจันทร์ฝังเพชรไปรอบดาวเคราะห์โลกหินไข่นกการเวกหรือเทอร์คอยซ์ เพื่อให้ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นนี้ถ่ายทอดอารมณ์ล้ำลึกยามทอดสายตาขึ้นมองห้วงจักรภพอันงดงามยามค่ำคืน ควบคู่ไปกับแสดงให้เห็นถึงความวิจิตรบรรจงอันเป็นเลิศอันถือกำเนิดจากฝีมือของเหล่าสุดยอดช่างศิลป์อัญมณี