Puff.

View Original

Van Cleef & Arpels ทวีความโดดเด่นของคอลเล็กชั่นเครื่องประดับ Perlée

Van Cleef & Arpels ได้ร่วมงานกับนักออกแบบ “อารธูร ออฟเนร (Arthur Hoffner)” และช่างภาพ “อีริค แมดิแดน เฮ็ค (Erik Madigan Heck)” ในการทวีความโดดเด่นของเครื่องประดับ “แปรเล” (Perlée collection) ผ่านงานทัศนศิลป์อันสดใหม่

มุมมองของสองศิลปิน

ที่มีต่อโลกของPERLÉEมุมมองอันแตกต่าง กับพลังทางความคิดสร้างสรรค์จากสองศิลปินต่างสาขา ได้ถูกนำมาใช้ถ่ายทอดความอ่อนช้อยทางรูปทรงโมทิฟลูกปัดไข่มุกทอง และประกายสีสุกสว่างสดใสของเครื่องประดับชิ้นต่างๆ ใน Perlée collection ผ่านผลงานภาพถ่าย และงานออกแบบจัดแสดงสินค้าหน้าร้าน ซึ่งถูกออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเมซง

ศิลปะการจัดแสดงสินค้าหน้าร้าน ซึ่งอารธูร ออฟเนรออกแบบมาสำหรับ Van Cleef & Arpels 

บรรยากาศแห่งความเบิกบานสดใสในดิสเพลย์ของอารธูร ออฟเนร

อีกครั้งที่ Van Cleef & Arpels ได้ร่วมงานกับศิลปินนักออกแบบ อารธูร ออฟเนร เพื่อยกระดับความโดดเด่นของเครื่องประดับต่างๆ ใน Perlée collection นักสร้างสรรค์ผู้เปี่ยมพรสวรรค์ทำการออกแบบศิลปะจัดวางชุดใหม่เพื่อเป็นเวทีให้บรรดาลูกปัดไข่มุกทองอันทรงเอกลักษณ์ได้อยู่บนตำแหน่งต่างๆ ทั้งในลักษณะลอยตัว และกำลังกลิ้งตัวเคลื่อนที่ดุจมีชีวิต ท่ามกลางลิขิตแสงจรัสประกายสดใสในสมดุลองค์ประกอบศิลป์

ชื่อเสียงของอารธูร ออฟเนร เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อปี 2017 จากรางวัล People’s Choice Award ในเทศกาลศิลปะการออกแบบ Design Parade Toulon festival ซึ่ง Van Cleef & Arpels เป็นผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงาน เขาทำงานกับเมซงเป็นครั้งแรกระหว่างปี 2019 ในส่วนของการออกแบบตกแต่งสำหรับจัดแสดงสินค้าเครื่องประดับแปรเล และบรรดาเครื่องบอกเวลา ส่วนในปีนี้ ถือเป็นอีกวาระที่ศิลปินสัญชาติฝรั่งเศสได้นำลูกเล่นเชิงศิลป์ของตนมาจัดองค์ประกอบการตกแต่งส่วนหน้าต่างแสดงสินค้า หรือดิสเพลย์ของบูติกสาขาต่างๆ ด้วยการใช้วัสดุทรงกลม, ท่ออลูมิเนียม และแท่งหินอ่อน เพื่อให้บรรดาลูกปัดสีสันปรากฏความงามดุจลอยตัวเคลื่อนที่ไปตามวิถีหลากมิติ

งานออกแบบศิลปะจัดวางสำหรับใช้แสดงสินค้าเครื่องประดับต่างๆ ของ Perlée collection จะถูกนำไปขึ้นแบบจริงเพื่อตกแต่งหน้าต่างสินค้าทั้งด้านนอกและภายในบูติก Van Cleef & Arpels สาขาต่างๆ ทั่วโลก มอบบรรยากาศอบอุ่นรองรับลูกเล่นขั้วต่างทางความขัดแย้ง สีชมพู, สีน้ำเงินสด และสีทองถูกนำมาใช้ร่วมกันอย่างกลมกลืนเพื่อทวีความโดดเด่นให้แก่ลูกปัดไข่มุกทอง หนึ่งในผลงานสัญลักษณ์ประจำเมซงอย่างแท้จริง นอกจากนั้น การตกแต่งดิสเพลย์ครั้งนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทำภาพยนตร์ 3 มิติสำหรับฤดูกาล อันเป็นงานพัฒนาร่วมระหว่างเมซงกับอารธูร ออฟเนร

“เครื่องประดับแปรเลถูกตั้งชื่อขึ้นเพื่อยกย่องความสำคัญของลูกปัดไข่มุกทองทอประกายสุกสว่างเรืองรองจากรูปทรงกลมกลึง ให้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว นี่เป็นมุมมองที่ผมใช้ออกแบบประติมากรรมชุดต่างๆ สำหรับเป็นเวทีรองรับความโดดเด่นให้แก่ผลงานเหล่านี้ โลกแห่งสีสันกับแถบริบบินแนวตั้งที่คลายตัวเป็นลอนคลื่นให้ความรู้สึกสดใส มีชีวิตชีวาท่ามกลางบรรยากาศการจัดวางองค์ประกอบตำแหน่งต่างๆ มิติโค้งเว้าของแถบริบบินแนวตั้งคล้ายกำลังโอบกระหวัดรัดรอบรูปทรงต่างๆ อันถือกำเนิดจากการก่อตัวแปรรูปของบรรดาลูกปัดทอง ไม่ต่างอะไรจากลีลาระบำปลายเท้า ซึ่งได้รับการออกแบบท่าเต้นให้สอดประสานกับท่องทำนองเพลงอย่างพร้อมเพรียง และกลมกลืน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ Van Cleef & Arpels อย่างต่อเนื่อง การผจญภัยร่วมกันไปบนเส้นทางศิลปะ อำนวยให้ผมได้ค้นพบการผสมผสานรูปแบบใหม่ๆ ระหว่างทำงานในฐานะศิลปิน และคอลเลคชันเครื่องประดับตัวแทนความสนุกสนาน เบิกบานใจ อันถือกำเนิดจากการใช้รูปทรงที่แตกต่างร่วมกัน ก็นำมาซึ่งความรู้สึกลงตัวได้อย่างกลมกลืน”

อารธูร ออฟเนร

อารธุร ออฟเนร

อารธูร ออฟเนรสนใจ และเริ่มเรียนรู้ ทำความรู้จักศิลปะเหล็กหล่อ และเหล็กดัดจากงานตกแต่งสวนภายในบ้านของครอบครัวตนเองตั้งแต่อายุ 10 ขวบก่อนจะกลายเป็นความรัก สร้างแรงผลักดันให้เข้าศึกษาด้านโลหะวิทยากับสถาบันฝึกหัดช่างศิลป์หัตถกรรม Compagnons du Devoir (ก็อมปาญงส์ ดู เดอวัวร์) ของมูลนิธิคูแบรแต็ง (Coubertin Foundation) ก่อนเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนศิลปะ École Boulle (เอโคล บูยล์) และ Ensci – Les Ateliers (อ็องไซ-เลซาเตอลิเอรส์) ในเวลาต่อมา  หัวใจรักในงานศิลปหัตถกรรมของชายหนุ่มผู้ยืนอยู่ ณ จุดบรรจบระหว่างประติมากรรมกับงานออกแบบ นำเขาไปสู่การทำงานร่วมกับบรรดานักออกแบบ และสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Robert Stadler and Cinna, ทัศนศิลปินอย่างเธโอ แมรซิเอรกับเออร์วิน เวอร์ม รวมถึงผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Sèvres, Henriot-Quimper และ Hermès

ตอนที่เมซงได้พบกับนักออกแบบหนุ่มผู้นี้ เราสัมผัสได้ทันทีถึงความเกี่ยวพันกันระหว่างผลงานของเขากับอาณาจักรเครื่องประดับแปรเล “มีภาวะสัมพันธ์อันแข็งแกร่งปรากฏอยู่ระหว่างงานของผมกับจินตนาการที่ถูกปลุกขึ้นโดยเครื่องประดับคอลเล็กชั่นนี้ ภาพในใจของผมเต็มไปด้วยสีสันกับรูปทรงในสไตล์การออกแบบ ปฏิกิริยาอันบังเกิดจากการเคลื่อนไหวของรูปทรง และสีสันสดใส ชวนให้เบิกบานใจ ช่างสอดคล้องกับมุมมอง และแนวทางการออกแบบส่วนตัวของผมอย่างยิ่ง” อารธูร ออฟเนร

รูปทรงกับสีสันของเครื่องประดับแปรเล
ตามสายตาของอีริค แมดิแกน เฮ็ค

เป็นอีกครั้ง ที่หนึ่งในเอกลักษณ์ทางการออกแบบ และเครื่องประดับสัญลักษณ์ประจำเมซง ได้รับการถ่ายทอดผ่านมุมมองของศิลปินต่างแขนง ช่างภาพอีริค แมดิแกน เฮ็คให้ความสำคัญแก่ลูกเล่นระหว่างสีสันกับสัณฐานกลมกลึงอันเป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของผลงานต่างๆใน Perlée collection ผ่านการใช้รายละเอียดตกแต่งเชิงกราฟิกร่วมกับมิติการจัดองค์ประกอบศิลป์เพื่อสร้างสรรค์งานภาพถ่าย “บุคคล” ให้เต็มไปด้วยขั้วต่างทางความขัดแย้งเพื่อบ่งบอกถึงจิตวิญญาณแห่งความสุข เบิกบานใจของเครื่องประดับคอลเล็กชั่นนี้

“สำหรับการทำงานร่วมกันกับ เครื่องประดับแปรเล ผมต้องการนำเสนอคอลเล็กชั่น ของ  Van Cleef & Arpels ต่อสาธารณชนผ่านบริบทเชิงประวัติศาสตร์ กระนั้นก็ต้องดูทันสมัยเพื่อให้แตกต่างจากอารมณ์ชวนฝันดุจเทพนิยายที่เรามักพบเห็น หรือคาดหวังว่าจะได้เห็นจากบรรดาเครื่องประดับชั้นสูงโดยทั่วไป นอกจากนั้น ผมยังนำลูกเล่นงานตัดกระดาษเจาะวงกลมสำหรับประกบทับเป็นกรอบภาพวาดสีน้ำแบบทศวรรษ 1960 มาใช้เพื่อให้ผลงานเครื่องประดับในภาพถ่ายเต็มไปด้วยความสดใหม่ ร่วมสมัย”

อีริค แมดิแกน เฮ็ค

อีริค แมดิแกน เฮ็ค

ศิลปินช่างภาพอีริค แมดิแกน เฮ็คเกิดเมื่อปี 1983 ที่เมืองเอ็กซ์เซลซิเยอร์ในรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา เจ้าของรางวัลอันทรงเกียรติระดับสากลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น International Center of Photography’s Infinity Award, FOAM Fotografiemuseum Talent award, Forbes 30 under 30 award ตลอดจน The Art Director’s Club Gold Medal จาก Old Masters หนังสือรวบรวมผลงานชิ้นสำคัญของเขา ซึ่งตีพิมพ์โดยนิตยสาร The New York Times Magazine

ในปี 2019 เฮ็คได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานภาพถ่ายของตนแต่เพียงผู้เดียวที่พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ Musée des Beaux-Art ในเลอ ล็อคเลอ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะสื่อผสม Multimedia Arts Museum ในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย รวมถึงการแสดงศิลปะจัดวางในพื้นที่สาธารณะของพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ฮูสตัน (Houston Museum of Fine Arts) อันประกอบไปด้วยภาพถ่ายมหานครปารีส, ภาพถ่ายกรุงลอนดอน และภาพถ่ายนครเซี่ยงไฮ้ อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการตีพิมพ์ Nomenus Quarterly วารสารการพิมพ์อันมีเนื้อหาสัมพันธ์ระหว่างภาพถ่ายกับจิตรกรรมขึ้นอีกครั้งหลังเว้นช่วงหายไประยะใหญ่ ซึ่งในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้เขาได้ทำงานร่วมกับศิลปินมากหน้าหลายตา และสถาบันอันทรงเกียรติหลายแห่ง นอกจากนั้น เฮ็คยังเป็นช่างภาพประจำให้แก่นิตยสาร The New York Times Magazine, TIME, Vanity Fair, The New Yorker, Harper’s Bazaar และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงยังเป็นผู้เขียน Old Future ซึ่งตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Thames & Hudson and Abrams Books

นับตั้งแต่ปี 2019  อีริค แมดิแกน เฮ็ค ได้เซ็นสัญญาร่วมงานสร้างสรรค์ภาพถ่ายเครื่องประดับหลายชุดให้แก่ Van Cleef & Arpels ซึ่งรวมถึงการได้รับอิสระอย่างเต็มที่สำหรับจัดทำหนังสือ Florae ซึ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2020 โดยสำนักพิมพ์ Éditions Xavier Barral