Van Cleef & Arpels กับคอลเล็กชั่นใหม่ในปี 2022 “Frivole” (ฟริว็อล)
กลีบพฤกษาระยับแสง ด้วยแรงบันดาลใจจากความงดงามของพรรณพฤกษา มาสู่งานออกแบบดอกจิกสามกลีบรูปหัวใจเพื่อสะท้อนถึงความสดใส มีชีวิตชีวาในอาณาจักรธรรมชาติของเครื่องประดับ “ฟริว็อล” (Frivole) คอลเล็กชั่นใหม่ในปี 2022 ซึ่ง Van Cleef & Arpels ได้บรรจงจัดทับทิมและมรกตนํ้างามมาเติมสีสันเจิดจรัสบนตัวเรือนทองคำ
ทั้งเฉดเหลืองและทองคำสีกุหลาบ ไหวพริบในการพลิกแพลงทักษะความชำนาญด้านศิลปะเครื่องประดับ ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสรรรัตนชาติ ไปจนถึงการขัดผิวโลหะขึ้นเงาราวกระจก ถูกนำมาใช้เพื่อให้เครื่องประดับแต่ละชิ้นทั้งเจ็ดรูปแบบต้องแสงตกกระทบจรัสประกายเจิดจ้าสลับสรรพสีราวกับบทกวีขับขานถึงมุมมองอันงดงามที่เมซงมีต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้
ความวิจิตรบรรจงของชุดเครื่องประดับแสงตะวัน
เป็นครั้งแรกที่เครื่องประดับฟริว็อลได้นำมรกตมา เติมมิติแห่งสีสันบนผลงานการออกแบบเครื่องประดับสามสไตล์ ซึ่งล้วนอาศัยเส้นโครงสร้างที่ดูเรียบง่าย กระนั้นกลับแยบคายในเหลี่ยมมุมเพื่อเร่งความเข้มแสงสะท้อนถึงขีดสุด เฉดสีเขียวสดเข้ม ลํ้าลึกของพลอยเนื้ออ่อนตัดกับประกายสุกสว่างของทองคำเหลืองอร่ามที่ใช้ประดิษฐ์โมทิฟหรือแผ่นลายรูปทรงหัวใจพับครึ่งสำหรับนำมาประกอบขึ้นวงกลีบดอกจิกได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสร้อยข้อมือ, สร้อยคอและต่างหู
มรกตซึ่งผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันโดยเหล่านักอัญมณีศาสตร์แห่งVan Cleef& Arpelsแต่ละเม็ด ต่างมอบมิติลํ้าลึกของนํ้าพลอยเขียวขจีเพื่อเป็นตัวแทนความสดใส มีชีวิตชีวาท่ามกลางบรรยากาศสวนรุกขชาติตระการตา ในขณะที่โทนสีอบอุ่นเรืองรองของทองคำเฉดเหลือง ซึ่งผ่านการขัดผิวขึ้นเงาราวกระจกอย่างพิถีพิถัน ให้การสะท้อนแสงเจิดจ้าราวกับดวงตะวันสาดรัศมีขับประกายใสสดงดงามจากเนื้อแท้ของรัตนมณี
สามกลีบดอกรูปทรงหัวใจพับครึ่งรองรับเฉดโทนอันอบอุ่นแห่งรงคมณี
สำหรับปีนี้ ทองคำสีกุหลาบถูกนำมาใช้เป็นตัวเรือนวงกลีบรองรับเกสรทับทิมของเครื่องประดับดอกจิกกลีบหัวใจในคอลเล็กชั่น ฟริว็อลเฉดสีอบอุ่น ละมุนละไมของโลหะเลอค่ากลมกลืนกับประกายไฟอันโชติช่วงของพลอยเนื้อแข็งตระกูลคอรันดัมนํ้างามอันหาได้ยากยิ่ง ที่เหล่าผู้ชำนาญประจำเมซงอาศัยความลํ้าลึกของสีแดงเป็นเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือก
การจัดตำแหน่งของจี้ดอกจิกสามกลีบทรงหัวใจอย่างอ่อนช้อยบนสายโซ่เส้นบอบบางของสร้อยคอ และสร้อยข้อมือ อำนวยให้วงกลีบทองคำที่ผ่านการขัดผิวอย่างประณีตจนขึ้นเงาราวกระจก ล้อแสงทอประกายวิบวับไปมายามแกว่งไกว ช่วยขับนํ้าพลอยในเนื้อทับทิมให้ทวีความสุกสว่างโชติช่วงสะกดสายตา ความงามสง่าจากการใช้เส้นโค้งกับการทำมุมพับกึ่งกลางแผ่นโมทิฟของกลีบดอกก่อลีลาสะท้อนแสงอย่างสลับซับซ้อน และผันเปลี่ยนไปมาไม่หยุดนิ่ง มอบความสดใส มีชีวิตชีวาให้แก่วงกลีบแต่ละดอก อันรวมถึงต่างหูซึ่งเป็นบทเติมเต็มความครบครันของชุดเครื่องประดับ
ช่อพฤกษาหลากสรรพสี
ลูกเล่นในการจัดองค์ประกอบโครงสร้างอาศัยลีลาสลับสี อย่างหลากหลาย อำนวยให้แหวนฟริว็อลสไตล์ใหม่ประดับความหรูหราบนปลายมือด้วยความซับซ้อนในช่อพฤกษาอันประกอบไปด้วยดอกจิกสามกลีบรูปหัวใจเกสรทับทิมห้าดอก และมรกตสามดอก ซึ่งได้รับการจัดตำแหน่งแต่ละดอกให้ลดหลั่นต่างระดับความสูงอย่างละเมียดละไมเพื่อก่อช่องไฟสลับสีสง่างาม
โมทิฟกลีบดอกรูปหัวใจพับครึ่งของแต่ละวงดอกผลิบาน ความลํ้าค่าต่างโทนสีจากทองคำเฉดเหลืองอร่าม และทองคำสีกุหลาบอันอบอุ่น แสงสะท้อนอันเป็นผลจากงานฝีมือขัดผิวขึ้นเงาราวกระจกก่อวิถีย้อนแย้งไปมา ให้ความรู้สึกราวกับแต่ละกลีบดอกสามารถขยับไหวได้เสมือนดอกไม้จริง นี่คือหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการออกแบบสร้างสรรค์สไตล์ Van Cleef& Arpels ที่ใช้ในการถ่ายทอดความเบิกบาน สดใสในโลกของพรรณพฤกษา
ไหวพริบในการใช้ทักษะความชำนาญด้านสีสัน
รัตนชาติหลากสีสัน อันเป็นที่ยกย่องคุณค่าอย่างยิ่งของVan Cleef& Arpelsมานับแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1906ได้พากันมาเจิดจรัสความงามในฐานะเกสรกลางวงกลีบรูปทรงหัวใจพับครึ่งของเครื่องประดับดอกจิกหรือคอลเล็คชั่นฟริว็อลในปีนี้เมซงได้ทำการคัดเลือกทับทิม และมรกตโดยใช้มาตรฐานคุณภาพทัดเทียมงานเครื่องประดับชั้นสูงอย่างเคร่งครัด นั่นหมายความว่า นักอัญมณีศาสตร์ต้องทำงานท่ามกลางแสงสว่างระหว่างวัน เพื่ออาศัยความเข้มแสงจากธรรมชาติช่วยเผยความงดงามทางสีสันของนํ้าพลอยออกมาในทุกมิติรายละเอียดให้มากเท่าที่เป็นไปได้ ทับทิมได้รับการคัดเลือกโดยพิจารณาจากเฉดสีแดงอมส้มไปจนถึงแดงอมชมพู ส่วนมรกตต้องมอบสีเขียวสดเข้ม ลํ้าลึกสำหรับนำมาใช้ในการสรรค์สร้างเครื่องประดับคอลเล็กชั่นใหม่ของปีนี้ ความพิถีพิถัน ระมัดระวังเป็นพิเศษยังครอบคลุมไปถึงงานเจียระไน และการเทียบสีของอัญมณีแต่ละเม็ดเพื่อมอบความกลมกลืนให้แก่ชุดเครื่องประดับที่ยกย่องลีลาระยับไหวในเนื้อสีของนํ้าพลอยเป็นสำคัญ
งานขัดผิวขึ้นเงาราวกระจกหรือ mirror polishing อันเป็นเทคนิคงานฝีมือตามขนบการสร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณีของVan Cleef& Arpels มานับแต่ทศวรรษ1920ถูกนำมาใช้กับโมทิฟรูปหัวใจพับครึ่งของแต่ละกลีบดอกเพื่อช่วยทวีประกายสุกปลั่งให้แก่เนื้อโลหะของทั้งทองคำเฉดเหลือง และทองคำสีกุหลาบ จนดูราวกับเครื่องประดับเหล่านี้กำลังจรัสประกายเจิดจ้าอยู่ท่ามกลางแสงตะวัน
ไหวพริบหัตถศิลป์ของช่างทำเครื่องประดับยังแสดงตัวผ่านงานประกอบดอกจิกทั้งแปดเข้าช่อเป็นหัวแหวน ความอ่อนช้อยของก้านดอกก่อลีลาสีตัดตามจังหวะกระหวัดรัดร้อยระหว่างสีทองคำต่างเฉด ต้องอาศัยความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดอย่างยิ่งยวดจากช่างฝีมือ เช่นเดียวกับความประณีต วิจิตรบรรจงในการจัดตำแหน่งโมทิฟวงกลีบแต่ละดอกเพื่อให้การสะท้อนตัวของแสงตกกระทบลำเลียงวิถีไปสู่พื้นผิวหน้าตัดฝั่งตรงข้าม และใกล้เคียงได้อย่างแม่นยำ
มวลพฤกษาในอาณาจักรแห่ง Van Cleef & Arpels
เสน่ห์ชวนฝันในสวนศรี
อาจกล่าวได้ว่าเข็มกลัดดอกเดซี (Daisy clip) ถือเป็นดอกไม้ดอกแรกที่ผลิบานขึ้นใจกลางสวนรุกขชาติแห่งVan Cleef& Arpels เมื่อปี 1907 ความรัก ความประทับใจในมวลชีวิตธรรมชาติ ร่วมกับการศึกษาวิจัยอย่างพิเคราะห์ และการรังสรรค์เพื่อถ่ายทอดทุกรายละเอียดอย่างสมจริง คือสิ่งซึ่งดำเนินสืบเนื่องมากว่าหลายปีผ่านผลงานเครื่องประดับ ทั้งที่ถูกออกแบบให้ตรงตามความเป็นจริง และจินตนาการเชิงประดิษฐ์
อย่างไรก็ตาม ว่าจะเป็นดอกไม้ป่า หรือดอกไม้สวน จะดอกเดี่ยว หรือเข้าช่ออย่างหลากหลาย ทุกผลงานสร้างสรรค์ต่างได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อยกย่องความเบิกบาน ร่าเริง มีชีวิตชีวาของมวลพฤกษาที่แกว่งไกวไปมา อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงตามลำดับช่วงชีวิตจากดอกตูมไปเป็นดอกบาน ความสุขรื่นรมย์อันบังเกิดจากการจับตาสังเกตถึงจังหวะผันเปลี่ยนตามวงจรชีวิตซึ่งวนเวียนต่อเนื่องเป็นอสงไขย ก่ออิทธิพล และสร้างแรงบันดาลใจให้เมซงคัดสรรรัตนชาติหลากสี และโลหะลํ้าค่านานาชนิดมาดัดแปลง แปรรูปจำแลงลักษณ์ทางทรวดทรงไปเป็นเครื่องประดับดอกโบตั๋น, ดาวกระจาย, ซากุระ, ดอกกระดิ่งหรือดอกระฆังและดอกบัว
แนวทางการออกแบบเครื่องประดับดอกไม้เข้าช่อหรือ “บูเกต์” ได้มาปรากฏในคอลเล็กชั่นต่างๆของVan Cleef& Arpelsมานับแต่ทศวรรษ 1910 ส่วนในระหว่างทศวรรษ 1930คือการพลิกแพลงไปสู่การจำลองแบบดอกไม้บานสะพรั่งที่ถูกตัดกิ่งสดใหม่มารวบเข้าช่อรัดก้านด้วยแถบริบบินทองคำ ตัวเรือนวงกลีบโลหะเลอค่าฝังรัตนชาติหลากสี หรือเพชรสุกใส ต่างตรึงตรา ประทับใจด้วยนํ้าหนักทรวดทรง กับลีลาความต่อเนื่องของเส้นสายซึ่งใช้ออกแบบ บางครั้ง กับบางชิ้น ก็ทวีความโดดเด่นด้วยกลีบใบทองคำขัดผิวขึ้นเงาราวกระจกสะท้อนแสงตกกระทบเจิดจ้าจรัสตา
ความหลากหลายละลานตาในการรังสรรค์ดัดแปลงเครื่องประดับจำลองรูปลักษณ์ความงามของพฤกษาธรรมชาติให้สมจริง หรือเป็นการตีความตามมุมมองจินตนาการ นำมาซึ่งต่างหู, สร้อยข้อมือ และกำไล, แหวน และจี้สร้อยคอกับเข็มกลัด ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมเชิงเทคนิคควบคู่ไปกับวิวัฒนาการทางงานออกแบบของเมซง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากับการเคลื่อนไหวทางกระแสนิยมในแวดวงศิลปะเครื่องประดับดอกไม้หลากสายพันธุ์ ถูกรังสรรค์ให้ผลิบานผ่านความงดงามลํ้าค่าของอัญมณี และสำหรับฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ด้วยตัวเรือนกลีบทองคำฝังเกสรทับทิม หรือมรกต เครื่องประดับดอกจิกกลีบหัวใจในคอลเล็คชั่นฟริว็อลคือผลงานการสืบทอดขนบธรรมเนียมแห่งการสร้างสรรค์อันยกย่องซึ่งคุณค่าแห่งความงามอย่างแท้จริง