จีเอสเค แนะเร่งสร้างความตระหนักรู้เรื่อง “สุขภาพช่องปาก” สร้าง “สุขภาพที่ดีแบบองค์รวม”
จากผลการงานวิจัยล่าสุดโดยอิปซอส ร่วมกับ จีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์ กับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 4500 คนใน 9 ประเทศ ซึ่งรวมกลุ่มตัวอย่างจากประเทศไทยด้วย 500 คน พบประเด็นที่น่าสนใจจากกลุ่มตัวอย่างชาวไทยว่า มีคนไทยเป็นส่วนน้อยที่มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการมีสุขภาพช่องปากที่ดี ซึ่งมีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าไปส่งเสริมพฤติกรรมในการดูแลช่องปากที่ดี เพื่อทำให้ผู้บริโภคเห็นว่า หากพวกเขาไม่ดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ซักวันหนึ่งรอยยิ้มอันสดใสบนใบหน้าอาจจะหายไปได้
บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างยอมรับว่า สุขภาพช่องปากมีความเชื่อมโยงกับสุขภาพร่างกายอย่างแยกจากกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คนในสังคมยังมีระดับการตระหนักรู้ต่ำจนน่ากังวล จากประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อมีการแปรงฟันอย่างถูกวิธี การดูแลช่องปากที่ดี และการไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ
· ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปากที่ดีในระหว่างตั้งครรภ์
ในระหว่างตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้นสามารถเปลี่ยนแปลงแนวทางที่ร่างกายตอบสนองต่อการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในฟัน และอาจจะส่งผลให้เกิดอาการเหงือกบวม ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคเหงือก สตรีที่ตั้งครรภ์ซึ่งมีภาวะโรคเหงือกขั้นรุนแรง หรือโรคปริทันต์อักเสบ มีโอกาสเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด มีภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือให้กำเนิดบุตรที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อย ดังนั้น พฤติกรรมการดูแลช่องปากที่ดีและการไปรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น[i]
อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละ 61 ของผู้ตอบแบบสำรวจเท่านั้น ที่ตระหนักว่าการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยส่งเสริมการตั้งครรภ์ที่ดี และลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ แต่ในหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามสูงวัย พบว่า หลายคนยังมีความตระหนักรู้ต่ำเกี่ยวกับความเสี่ยงของการมีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีซึ่งมีผลต่อการตั้งครรภ์ ส่วนอีกร้อยละ 71 ของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี รับรู้ถึงความเสี่ยงนั้น แต่ตัวเลขดังกล่าวกลับลดลงเหลือร้อยละ 52 สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
· กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงไม่ทราบถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพช่องปากและโรคเบาหวาน
การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีพออาจทำให้เหงือกอักเสบและเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดยากขึ้น และเกิดการตอบสนองต่ออินซูลิน2 ในทางกลับกัน ระดับกลูโคสที่สูงในน้ำลายของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2 สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคฟันผุ และระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ทั่วไป เช่น ในปาก ซึ่งจะรักษาให้หายได้ช้ากว่า
ในขณะที่ร้อยละ 69 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปี ตระหนักดีว่าสุขภาพช่องปากที่ดีมีผลดีต่อการช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยจัดการกับโรคเบาหวานได้ ตัวเลขนี้ลดลงเหลือร้อยละ 62 สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป โดยกลุ่มคนอายุมากกว่า 50 ปีที่มีความเสี่ยงสูง มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 มากขึ้น สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างการตระหนักรู้และการเข้าไปให้ความรู้กับคนกลุ่มนี้
ผู้คนรับรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพช่องปากกับโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น
งานวิจัยแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าผู้ที่ป่วยโรคเหงือกขั้นรุนแรงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น เนื่องจากแบคทีเรียที่เข้าไปทำลายเหงือก สามารถแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปทั่วร่างกายและทำให้เกิดการอักเสบได้3
โดยร้อยละ 63 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ทราบดีว่าพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
การศึกษาชี้ให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของการไปพบกับทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวม ผู้ตอบแบบสอบถามที่ไปพบทันตแพทย์บ่อยขึ้นในช่วงของการระบาดโรคโควิด-19 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ต่างตระหนักถึงผลกระทบของสุขภาพช่องปากในทุกสภาวะที่สำรวจมากขึ้น
· ร้อยละ 76 ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไปพบทันตแพทย์บ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ด้วยทราบดีถึงการสุขภาพช่องปากที่ดี ช่วยเพิ่มโอกาสของการตั้งครรภ์ที่ดีไปด้วย เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามทั่วไปที่ทราบถึงข้อมูลดังกล่าว เฉลี่ยร้อยละ 58
· ร้อยละ 77 ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไปพบทันตแพทย์บ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ตระหนักดีว่าสุขภาพช่องปากที่ดีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามทั่วไปที่ทราบถึงข้อมูลดังกล่าว เฉลี่ยร้อยละ 65
· ร้อยละ 74 ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไปพบทันตแพทย์บ่อยขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ตระหนักดีว่าสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยจัดการกับโรคเบาหวานได้ เมื่อเทียบกับผู้ตอบแบบสอบถามทั่วไปที่ทราบถึงข้อมูลดังกล่าว เฉลี่ยร้อยละ 62
นายอีเมอร์สัน อากีนัลโด ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน ของ จีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์.กล่าวว่า “การมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่การไปวิ่งหรือออกกำลังกายในยิม แล้วได้ภาพสวยๆ เพื่อโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่การมีสุขภาพที่ดีอาจจะเป็นพฤติกรรมทั่วๆ ไปที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน แต่กลับสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีข้อยกเว้นสำหรับพฤติกรรมการดูแลช่องปากที่ถูกต้อง เช่น การแปรงฟันเป็นประจำโดยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ (เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และไหมขัดฟัน) ดังนั้น เราต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า หากผู้คนนำพฤติกรรมเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถสร้างกระทบเชิงบวกให้กับสุขภาพโดยรวมได้ และในที่สุดก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ในระยะยาวได้
นายอีเมอร์สัน อากีนัลโด ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไต้หวัน ของ จีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์.กล่าวว่า “การมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่แค่การไปวิ่งหรือออกกำลังกายในยิม แล้วได้ภาพสวยๆ เพื่อโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่การมีสุขภาพที่ดีอาจจะเป็นพฤติกรรมทั่วๆ ไปที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน แต่กลับสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีข้อยกเว้นสำหรับพฤติกรรมการดูแลช่องปากที่ถูกต้อง เช่น การแปรงฟันเป็นประจำโดยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ (เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และไหมขัดฟัน) ดังนั้น เราต้องทำให้ประชาชนเห็นว่า หากผู้คนนำพฤติกรรมเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถสร้างกระทบเชิงบวกให้กับสุขภาพโดยรวมได้ และในที่สุดก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ในระยะยาวได้
ในฐานะที่เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพชั้นนำระดับโลก จีเอสเคร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้า ไม่ว่าจะเป็น เภสัชกร ทันตแพทย์ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อร่วมเป็นพลังให้กับผู้บริโภคสามารถดูแลสุขภาพที่ดีในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาความกดดันที่เกิดขึ้นกับระบบให้บริการสุขภาพอีกด้วย”
เกี่ยวกับผลสำรวจ
เป็นแบบสอบถามออนไลน์ซึ่งทำการสำรวจกับผู้บริโภคจำนวนทั้งสิ้น 4,500 คน จาก 5 ประเทศในยุโรป (ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร สเปน และรัสเซีย) และ 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย) โดยเป็นผู้มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ประเทศละ 500 คน การสำรวจนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 17 ถึง 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 และมุ่งเน้นไปที่ระดับการขออนุมัติของผู้ตอบแบบสอบถามด้วยข้อความต่างๆ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมใดๆ ช่วงก่อนและหลังการระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มขึ้น ข้อมูลถูกจับคู่อย่างเป็นสัดส่วนกับข้อมูลสำคัญอื่นๆ อาทิ อายุ เพศ ภูมิภาคที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดได้ถูกนำเข้าไปอยู่ใน Adverse Event Tracker (การส่งต่อไปยังผู้ผลิตในรูปแบบที่ไม่ระบุตัวตนซึ่งมีปัญหากับผลิตภัณฑ์)
เกี่ยวกับ จีเอสเค / จีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์
GSK เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gsk.com/about-us
เราเป็นองค์กรด้านการดูแลสุขภาพสำหรับผู้บริโภคชั้นนำระดับโลกซึ่งนำเอาวิทยาศาสตร์และข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค มาใช้สร้างแบรนด์ด้านการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันด้วยนวัตกรรมที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก การระงับความเจ็บปวด ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่และโรคภูมิแพ้ สุขภาพทางเดินอาหารและวิตามิน แร่ธาตุและอาหารเสริม
แบรนด์ของเราที่เป็นที่นิยมและได้รับความไว้วางใจ ได้แก่ Centrum, Sensodyne, paradontax, Polident, Advil, Voltaren, Panadol, Otrivin และ Theraflu
New study shows more needs to be done to raise public awareness on the impact of good oral health habits on overall health.
A new study by Ipsos and GSK Consumer Healthcare, with 4500 participants across 9 countries, including 500 participants from Thailand. Key findings from respondents in Thailand highlight insufficient public awareness on the impact of good oral health to our overall health and the need to promote good oral health habits in Thailand. This behavior can be more than their smile put at risk if they don’t take care of their mouths properly.
The association between oral health and overall health is well-documented by the scientific community. However, public awareness of the wider benefits of careful tooth-brushing, taking care of your oral cavity and regular dentist visits remains worryingly low.
· Not enough awareness of the importance of good oral health during pregnancy
During pregnancy, higher hormone levels can change the way the body reacts to plaque build-up, causing swollen gums, an early sign of gum disease. Pregnant women with severe gum disease, also known as periodontitis, are more at risk of giving birth prematurely, suffer pre-eclampsia, or have a baby with low birth weight – meaning good oral health habits and seeking advice from healthcare professionals are critical1.
Yet, just 61% of respondents to the survey were aware that good oral healthcare can support a healthier pregnancy, with lower risk of complications. There was even lower awareness of the risks of poor oral health for pregnancy among older respondents who will be grandparents and often advisors. While approximately 71% of those under 50 knew of the risks, the number fell to just 52% for people aged over 50.
· Higher risk groups unaware of oral health links to diabetes
Poor oral health can cause gum inflammation and infection. This can make it harder for the body to control blood sugar levels, and respond appropriately to insulin2. In turn, high glucose levels in the saliva of Type 1 and Type 2 diabetes sufferers can increase the risk of dental decay, and their high blood sugar levels mean general wounds, including those in the mouth, heal more slowly.
While 69% of respondents between the age 18-29 were aware that good oral health has a positive impact on helping to maintain blood sugar levels and manage diabetes, this number dropped to only 62% for respondents over 50. With the over 50s, being a higher-risk group, more likely to develop type 2 Diabetes, this suggests a need for targeted awareness raising and education.
· Oral health links to cardiovascular disease better recognised
Research shows that people with severe gum disease are at higher risk of heart
disease. The bacteria that attack gums can spread throughout the body in
the bloodstream and can cause inflammation 3.
63% of respondents were aware that good oral health habits can reduce the risk of developing cardiovascular diseases.
The study highlighted the significant role of regular dental visits in improving understanding of the relevance of oral health to overall health. Respondents who visited a dentist more frequently during the pandemic compared to before were more aware of the impact of oral health on all conditions surveyed.
· 76% of respondents in South East Asia who visited the dentist more frequently compared to pre-Covid times were aware that good oral health can improve the chance of healthy pregnancy compared to 58% of respondents on average.
· 77% of respondents in South East Asia who visited the dentist more frequently compared to pre-Covid times were aware that good oral health can reduce the risk of cardiovascular disease, compared to 65% of respondents on average.
· 74% of respondents in South East Asia who visited the dentist more frequently compared to pre-Covid times were aware that good oral health can help to manage diabetes compared to 62% average of respondents on average.
Emerson Aguinaldo, General Manager, South East Asia and Taiwan, GSK Consumer Healthcare, said: “Being healthy isn’t all about broadcasting your runs or snapping photos at the gym – it can be the most mundane, behind-the-scenes habits that have the biggest impact. Good oral care habits like good, regular tooth-brushing using proven effective consumer healthcare products (toothpaste, mouth rinse and floss) are no exception. We need to show people the power of getting these habits right due to the many positive effects this can have on overall health, ultimately reducing the risk of developing a number of health conditions in the long term.
As a leading global healthcare company, GSK work closely with frontline health workers, pharmacists, dentists and government organisations to empower consumers to take better care of their everyday health, and in doing so, relieving pressure on our health services.”
About the survey
In total, 4,500 people were surveyed from five European countries and (France, Germany, Great Britain, Spain and Russia) and four South-East Asian countries (Indonesia, the Philippines, Singapore and Thailand). 500 people over the age of 18 years old were surveyed in each country. The survey was conducted online between 17th and 26th February 2021. The data was mapped proportionally against metadata – age, sex, region – in the total population. In addition, all participants whose data was taken into account agreed to an Adverse Event Tracker (forwarding to manufacturers in anonymised form any problems with products).
About GSK / GSK Consumer Healthcare:
GSK is a science-led global healthcare company. For further information please visit www.gsk.com/about-us
Our world-leading Consumer Healthcare business combines trusted science and human understanding to create innovative everyday healthcare brands that consumers trust and experts recommend across oral health, pain relief, cold, flu and allergy, digestive health and vitamins, minerals and supplements.
Our portfolio of loved and trusted brands includes Sensodyne, parodontax, Polident, Advil, Voltaren, Panadol, Otrivin, Theraflu and Centrum.
References:
[1] European Federation of Periodontology, https://www.efp.org/gum-disease-general-health/oral-health-pregnancy/overview/why-it-matters/
2 Simpson T.C. et al. (2015) Treatment of periodontal disease for glycaemic control on people with diabetes mellitus. Cochrane Library, https://www.cochranelibrary.com/cdsr/doi/10.1002/14651858.CD004714.pub3/full
3Harvard Medical School - Health Publishing, https://www.health.harvard.edu/heart-health/gum-disease-and-heart-disease-the-common-thread